บันทึกการเดินทางรอบยุโรปของผู้หญิงเอเชียตัวเล็กๆ ตอนที่ 2 Barcelona, Spain (บาร์เซโลน่า, สเปน)

บันทึกการเดินทางรอบยุโรปของผู้หญิงเอเชียตัวเล็กๆ 
ตอนที่ 2 Barcelona, Spain (บาร์เซโลน่า, สเปน) 
44 วัน 20 เมือง 16 ประเทศ
ตอนที่ 2 จาก 17

สารบัญของบันทึก 

1. เตรียมความพร้อม
2. Barcelona, Spain (บาร์เซโลน่า, สเปน) [3 คืน]
3. Nice, France & Monaco (นีซ, ฝรั่งเศส และราชรัฐโมนาโก) [3 คืน]
4. Milan, Italy & Lugano Switzerland (มิลาน, อิตาลี และลูกาโน่ สวิสเซอร์แลนด์) [2 คืน]
5. Venice, Italy (เวนิส, อิตาลี) [2 คืน]
6. Ljubljana & Bled, Slovenia (ลูบลิยานา และเบลด, สโลวีเนีย) [3 คืน]
7. Zagreb, Croatia (ซาเกร็บ, โครเอเชีย) [2 คืน]
8. Budapest, Hungary (บูดาเปสต์, ฮังการี) [3 คืน]
9. Vienna, Austria & Bratislava, Slovakia (เวียนนา, ออสเตรีย และบราติสลาวา, สโลวาเกีย) [3 คืน]
10. Prague, Czech Republic (ปราก, สาธารณรัฐเช็ก) [4 คืน]
11. Kraków, Poland (คราคูฟ, โปแลนด์) [6 คืน]
12. Morskie Oko, Zakopane, Poland (ทะเลสาบมอร์สเกี๊ยะโอโกะ สโกเปีย, โปแลนด์) [0 คืน]
13. Berlin, Germany (เบอร์ลิน, เยอรมัน) [3 คืน]
14. Hamburg, Germany (ฮัมบูร์ก, เยอรมัน) [3 คืน]
15. Amsterdam, Netherlands (อัมสเตอร์ดัม, เนเธอร์แลนด์) [2 คืน]
16. Antwerp, Belgium (แอนต์เวิร์ป, เบลเยี่ยม) [2 คืน]
17. Luxembourg City, Luxembourg (ลักเซมเบิร์ก, ราชรัฐลักเซมเบิร์ก) 
[2 คืน]

อยากให้อ่านก่อน

บันทึกนี้เล่าโดย K.Natri เป็นการเล่าจากประสบการณ์ตรงของเราเอง โดยการเล่าเรื่องได้ใช้ความรู้สึก ความคิดเห็นของเราแต่งเติมเข้าไปในเนื้อหา เพื่อเพิ่มอรรถรสในการเล่าเรื่อง นอกจากนี้เราได้รวบรวมข้อมูลบางส่วนที่ได้มาจากการอ่านในเว็บไซต์ต่างๆ ตามบอร์ดในสถานที่จริง และจากการฟังมาจากไกด์ รวมทั้งคนท้องถิ่น เพื่อนำมาบรรยายให้ดูมีความรู้ขึ้น 😁
สำหรับการท่องเที่ยวยุโรปครั้งนี้ เป็นครั้งแรกของเราเลยที่ได้เที่ยวประเทศในยุโรป (ไม่รวมฝรั่งเศสที่มาเรียนต่อในยุคโควิด) และเป็นการเดินทางคนเดียวตั้งแต่ครั้งแรกเลย ดังนั้นเรายังไม่มีประสบการณ์ท่องเที่ยวในยุโรปดี แต่เราพยายามเก็บทุกที่ที่ไปได้และอยากไป เพราะไม่รู้จะมีโอกาสได้เที่ยวแบบนี้อีกเมื่อไร สำหรับทริปนี้เราไม่ค่อยได้ออกไปเที่ยวช่วงตอนกลางคืน เราเป็นแค่ผู้หญิงเอเชียตัวเล็กคนเดียว ยังไม่กล้ามากพอ ขอเซฟตัวเองก่อนนะ และในทริปนี้เราพยายามเลือกไปสถานที่ธรรมชาติมากกว่าสายมิวเซียม เพราะเป็นคนไม่อินกับมิวเซียมและศิลปะนัก ค่อนข้างแนวสายลุยๆ มากกว่า 💚

มุ่งสู่ Barcelona จาก Paris

20 มีนาคม 2565 เป็นวันแรกของการเดินทาง เต็มไปด้วยความรู้สึกกังวลและความกลัวอย่างมาก😟 นั่นเพราะว่าจริงๆ แล้วทริปนี้อาจเรียกได้ว่าเกิดขึ้นอย่างกะทันหันก็ว่าได้ เราใช้เวลาเพียงแค่ 1 อาทิตย์ก่อนการเดินทาง ในการหาจองที่พัก (เราใช้วิธีการจองล่วงหน้าทีละ 1-2 อาทิตย์ เพราะเราต้องการความยืดหยุ่นของการเดินทาง) และจองที่นั่งรถไฟ รวมทั้งรถบัส ในตอนนั้นความพร้อมเรายังมีไม่เต็ม 100% อาจจะมีสักประมาณ 70% ได้ เพราะเราก็มีคิดมาตลอด ว่าอยากไปเมืองนี้ อยากไปสถานที่นี้มาสองสามเดือนก่อนหน้านี้แล้ว แล้วตอนแรกคิดว่าอยากเริ่มเดินทางสักเมษายน แต่ก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้เราต้องขยับการเดินทางมาเร็วขึ้นอย่างกะทันหัน 
 
การเดินทางในเมืองแรกของเรามีความรู้สึกหลากหลายอารมณ์ ทั้งความกังวล ความตื่นเต้น และความรู้สึกเศร้า (เพิ่งจากกับแฟนเมื่อสองวันก่อนเดินทาง เพราะแฟนต้องไปทำวิจัยต่อที่ออสเตรเลีย) ทำให้การเดินทางในเมืองแรกของเรารู้สึกว่าเรายังไปไม่สุดพอ แต่อย่างน้อยเราก็ได้พยายามเก็บสถานที่สำคัญในบาร์เซลโลน่า ที่ต้องการอยากจะไปมากที่สุดมาครบ 

เราใช้ Eurail Pass นั่งรถไฟขบวนของ TGV จากสถานี Paris Gare De Lyon ไปถึง สถานี Barcelona Sants อย่างที่ได้บอกไปจากบทความก่อนหน้านี้ว่ารถไฟ TGV ต้องจองที่นั่งทุกขบวน และรถไฟที่ไปสเปนหรือในสเปนต้องจองที่สถานีเท่านั้น! (วุ่นวายมากถ้าจะใช้ Eurail Pass เดินทางในสเปน) ขบวน TGV สามารถจองได้ทุกสถานีที่มี SNCF Ticket Office เราเสียค่าจองที่นั่งไป 34 Euro แพงมาก!!! เป็นแบบ Direct train ใช้เวลา 6 ชั่วโมง 40 นาที (10:14 น. - 16:54 น.) จะบอกว่าการจองที่นั่งของขบวนรถไฟประเภท TGV เป็นขบวนที่จองที่นั่งแพงที่สุดเลย เพราะขบวนอื่นที่เคยจองมาอยู่ที่ 3 - 10 Euro ดังนั้นเราคิดว่า Eurail Pass ไม่เหมาะกับการใช้เดินทางที่ประเทศฝรั่งเศสเท่าไร เพราะขบวน TGV ที่เป็นขบวนรถไฟเร็วไปแต่ละเมือง ต้องจองที่นั่งทั้งหมด พอรวมไปมามีแพงกว่าจองแยกแน่นอน
     พอเรามาเหยียบสถานี Barcelona Sants ปุ๊บ ความรู้สึกแรกเลย เราต้องรอดให้ได้! และต้องสำเร็จ!💪 

เราพักที่ไหนใน Barcelona

เราพักที่ Hola Hostel Exiample จะอยู่ใกล้กับสถานีรถบัสกลาง ที่เราเลือกใกล้ที่นี่ เพราะว่าต้องเดินทางโดยใช้บัสไปเมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส ตอนเช้าวันที่ 23 เราเลยหาที่พักใกล้กับสถานีรถบัสกลาง แต่ก็ไม่ได้ไกลจากตัวเมือง สามารถเดินไปได้ เราพัก 3 คืน ตั้งแต่วันที่ 20 - 23 มีนาคม ราคารวมภาษีแล้วอยู่ที่ 66.09 Euro พักแบบ Female Dorm 16 เตียง แต่ตอนที่เราพักมีแค่ 6 คนเอง เป็นเตียงสองชั้นแบบมีม่านกั้น และตู้ล็อคเกอร์ ใช้คีย์การ์ดที่ได้มาใช้เปิดปิด 
โฮสเทลนี้ห้องน้ำรวมจะอยู่ด้านนอก แยกชายหญิง และห้องสุขาก็แยกเช่นกัน มีห้องน้ำอยู่ 4 ห้อง ถึงแม้ห้องน้ำจะน้อย แต่ไม่ต้องห่วงไม่มีใครแย่งเราอาบแน่นอน เพราะนี่ไม่ค่อยเห็นคนอาบน้ำกันเลย 5555 จริงๆ เราก็เหมือนกันอาบวันละครั้งพอ เคยไม่อาบก็มี 555555 😅
ที่พักจะมีครัวไว้ทำอาหารได้ ซึ่งเราประหยัดอาหารจากจุดนี้ได้ เพราะบางทีก็ต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป (บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่นี่ราคาประมาณ 1 - 3 Euro) บางทีก็ซื้อขนมปังมาอบกินเอง ไม่หมดก็ขนต่อไปอีกเมืองได้ ประหยัดได้เยอะเลย ที่ทำอาหารจะอยู่ตรงโซนห้องกลาง ที่นี่เราสามารถมาทำอาหาร มาเจอเพื่อน เจอสังคมใหม่ๆ ได้ มีตู้กดน้ำ ตู้กดขนมด้วย มีโซนคอมพิวเตอร์ที่สามารถขอยืมใช้ได้ด้วย และเครื่องซักผ้า สิ่งที่เราไม่ชอบมากที่สุดของโฮสเทล คือ ไฟ! เพราะมันเปิดปิดอัตโนมัติ มีเซนเซอร์ตรวจจับตามการเคลื่อนไหวตรงประตูห้องนอน ดังนั้นตอนเราเข้าห้องมาไฟก็ติดประมาณ 10 นาที จากนั่นก็ดับ แล้วคือ บางทีกำลังเก็บของ หรือนอนเล่นมือถือ ก็ต้องออกมาเดินตรงหน้าประตู เพื่อให้ไฟติด 😐

เราไปไหนมาบ้างใน Barcelona

Arc de triomphe (Barcelone) เราไปวันแรกที่มาถึงเลย เพราะอยู่ใกล้ที่พัก เดินไปประมาณ 10 นาที เป็นซุ้มประตูอิฐขนาดใหญ่ ที่มีด้านนึงเป็นทางเดินยาวไปจนถึงสวนสาธารณะที่ชื่อว่า Parc de la Ciutadella เราเดินดูไม่นาน ก็หาอะไรกินเลย เพราะหิวมาก เดินผ่านร้านอาหารจีน เห็นราคาหน้าร้านแล้วถูกกว่าตอนอยู่ฝรั่งเศสอีก แล้วก็คิดถึงอาหารเอเชีย อยากกินด้วย😋 555 มาวันแรกของการท่องเที่ยวก็จะกินแบบตลกๆ หน่อย เพราะมาถึงสเปน แต่มากินอาหารเอเชียเลย ก็จ่ายไป 11.50 Euro ได้ติ่มซำกุ้ง ผัดซีอิ๊วหมูเส้นใหญ่ และน้ำขวด (ถ้าสั่งประมาณนี้ ที่ฝรั่งเศสจะประมาณ 15 - 20 Euro ราคาในเมือง Rennes)

Barcelona Beach เช้าวันต่อไป เราก็ออกสายๆ หน่อย ไม่ได้รีบมาก กินข้าวเช้าและเที่ยงรวมกันเลยทีเดียว ก็กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกับขนมปังที่ซื้อมาจากซูเปอร์มาร์เกต การเดินทางของเราในเมืองส่วนใหญ่ใช้การเดินเท้าโดยส่วนมาก จากที่พักเดินออกไปสัก 20 นาที อ้าว! ลืมเอาแบตใส่กล้อง ก็ต้องเดินกลับที่พัก กว่าจะนำตัวเองถึงชายหาด ก็บ่ายโมงกว่าแล้ว แต่จริงๆ มีแวะถ่ายรูปกับ Arc de triomphe อีกรอบก่อน เพราะเป็นทางผ่านมา สำหรับชายหาดของบาร์เซลโลน่า ที่นิยมมากที่สุด คือ Barceloneta Beach เราเดินตั้งแต่จาก Bogatell Beach ไป Barceloneta Beach ใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าๆ ที่นานเพราะว่า หยุดถ่ายรูปบ้าง ยืนให้ลมปะทะหน้าบ้าง คิดอะไรไปเรื่อยๆ ตอนที่เราเดินเล่นบนชายหาด ไม่ค่อยมีคนเท่าไร อากาศยังเย็นๆ อยู่เลย และลมแรงมากกกกกกก💨

Columbus Monument เดินมาเรื่อย ๆ จนถึงอนุสาวรีย์ของ Christopher Columbus เชื่อว่าหลาย ๆ คน รู้จักคนนี้แน่นอน จากสมัยเรียนอันเนิ่นนาน โดยอนุสาวรีย์นี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่การเดินทางครั้งแรกของโคลัมบัสที่ไปทวีปอเมริกา

La Rambla จากอนุสาวรีย์เราก็เดินไปทางจัตุรัสเมืองโดยใช้ถนน La Ramble เป็นถนนคนเดินขนาดใหญ่ผ่าใจกลางเมืองเลย ข้างทางจะมีอาหาร บาร์ ของที่ระลึกขายตลอดทาง เราก็ซื้อไอศกรีมวาฟเฟิลมา เพราะเดินจนคอแห้งแล้ว ในราคา 6 Euro

Mercado de La Boqueria จากถนน La Rambla ถ้าเดินมุ่งตรงไปจัตุรัสเมือง ตลาดจะอยู่ทางซ้ายมือ เป็นตลาดในที่ร่ม ที่มีของกินขายมากมาย แต่แอบแออัดไปหน่อย เพราะคนเยอะมาก

Place de Catalunya เดินจนถึงจัตุรัสของเมือง ก็ถ่ายรูป Charlie เป็นที่ระลึกซะหน่อย ยิ้มหวานๆเลยนะ 😀 จัตุรัสนี้เป็นเหมือนศูนย์กลางของการเดินทางไปยังย่านต่างๆ และมีแหล่งช็อปปิ้งมากมาย

Cathedral of Barcelona เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดท้ายของวันที่สองที่เราไป คือ มหาวิหารบาร์เซลโลน่า ตั้งอยู่ใจกลางบาร์เซลโลน่า ด้านหน้ามหาวิหารจะเต็มไปด้วยร้านค้าอาหาร ร้านขายของ และมีนักดนตรีข้างถนน อยู่ในย่าน Gothic Quarter ถ้าจะเข้ามหาวิหารมีค่าเข้าราคาปกติที่ 7 Euro และก็มีช่วงบางเวลาฟรีนะ นั่นคือ ถ้าวันจันทร์ถึงวันเสาร์ จะเข้าฟรีสองช่วง คือ 8:00 – 12:45 น. และ 17:45 – 19:30 น. กับถ้าเป็นวันอาทิตย์รวมถึงวันหยุดต่างๆ จะเป็น 8:00 – 13:34 น. และ 17:15 – 20:00 น.

Park Güell เป็นสวนเก่าแก่บนเนินเขา เป็นหนึ่งในผลงานของ Gaudí สถานที่ ที่ใคร ๆ ก็บอกว่าถ้ามาบาร์เซลโลน่าแล้วนะ ต้องมาที่นี่ โอเค จัดไป เราต้องไป 👌 ก็จะมีค่าเข้า ถ้าซื้อหน้างานจะอยู่ที่ 10 Euro แต่ถ้าผ่านเว็บไซต์ของมันเอง มันจะลิงค์ไปที่บริษัท Headout แล้วมีเสียค่าธรรมเนียม 2.5 Euro สำหรับเราโอเคที่จะเสียค่าธรรมเนียม เพราะไม่อยากไปยืนรอต่อคิว แล้วอีกอย่างซื้อผ่าน Headout สามารถสะสมเครดิตใช้ลดเข้าได้อีกหลายสถานที่ มีหลายประเทศให้ได้ใช้เลย ซึ่งเราเอาเครดิตไปใช้ต่อ ตอนไปเหมืองที่โปแลนด์
เรานั่งบัสจากที่พักไปช่วงสายๆ ก่อนเข้าชมสวน ก็แวะกินข้าวเช้าผสมเที่ยงก่อน มื้อนี้ขอจัดอาหารสเปนแบบกินในร้านหน่อย นั่นคือ Paella (ปาเอยา หรือ ข้าวอบสเปนนั่นเอง) อร่อยมาก 😋 ไม่แพงด้วย โดย Paellas ทุกเมนูอยู่ที่ 12 Euro หมด แล้วได้เยอะด้วย พิกัดร้านใกล้กับทางเข้าสวนเลย ชื่อร้านว่า Bar-Restaurant Piranya
อยากจะเล่าต่ออีกนิด เที่ยวคนเดียวแต่เหมือนไม่ได้เที่ยวคนเดียว นั่นคือ เราอยากถ่ายภาพตัวเอง แต่ว่าหาที่ตั้งขากล้องไม่ได้ เพราะมันเป็นลานกว้าง แล้วคนก็เยอะมาก ไม่กล้าตั้งขากล้องเลย แต่ด้วยความที่ว่าเราต้องได้ภาพตรงนี้ เพราะด้านหลังมันสวยมากๆ เราก็ต้องเล็งหาเหยื่อ จะขอให้ใครช่วยดี ในใจก็เคยอ่านเจอในเน็ตมาว่า ระวังมิจฉาชีพ แบบขโมยกล้องเราไปเลย ดังนั้นเราก็ต้องเลือกคนที่เราเห็นว่าปลอดภัยสุด ก็เลยไปเห็นผู้หญิงคนนึงเหมือนมาคนเดียวแล้วแขวนกล้องใหญ่ด้วย อ่า.เสร็จฉัน 😁 ถ่ายภาพเป็นแน่ๆ แล้วดูเป็นคนดี เลยขอให้ถ่ายภาพให้ แล้วนางก็ขอให้เราถ่ายให้กลับ จากนั้นก็คุยกันไปมา สรุปเป็นคนจากสาธารณรัฐเช็ก แล้วกำลังจะไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ธรรมศาสตร์ ตอนเดือนสิงหาคมนี้ คือ มันบังเอิญมากๆ เพราะนางกำลังจะไปไทยเร็วๆ นี้ แล้วเราก็คนไทยไง ก็เลยแลกไอจีกัน แล้วก็จากนั้นเดินเที่ยวด้วยกันต่อเลย จนแยกย้ายกันไปในตอนเย็น แล้วเราก็ไปเจอกันต่อที่ปราก! (ไว้เล่าต่อบทความในเมืองปราก)

La Sagrada Familia เป็นโบสถ์ที่มีสถาปัตยกรรมล้ำยุค อีกหนึ่งในผลงานของ Gaudí เราเดินจาก Park Güell มาเรื่อยๆ ก็ไกลนะ แต่ได้เดินชมเมือง เราโอเคที่จะเดิน เดินจนถึงสถานที่สุดท้ายของบาร์เซลโลน่าที่เราไป แต่ว่าเราไม่ได้เข้านะ ไม่ใช่สายนี้ ถ้าจะเข้าราคาปกติอยู่ที่ 26 Euro เราถ่ายภาพหน้าสถานที่พอ แล้วก็เดินรอบๆ นั้น จะมีสวนเล็กๆ กับแหล่งช็อปปิ้งอยู่

จากนั้นเราก็เดินกลับแถวที่พัก แล้วอยากกินข้าวอบสเปนอีก ก็เลยเดินไปหาร้านกินแถว Arc de triomphe รสชาติก็โอเค แต่สู้ที่กินจากที่สวนบนเขาไม่ได้ 5555 ในทุกๆ เมืองที่เราไป เราจะส่งโปสการ์ดกลับไทยเสมอ ระหว่างที่เรากำลังถ่ายภาพและถ่ายวิดีโอตอนที่กำลังหยอดตู้จดหมาย พยายามหามุมสวยๆ อยู่สักพัก ก็มีลุงเดินมา แล้วบอกว่าเปิดตรงนี้นะ แล้วลุงก็รีบวิ่งกลับขึ้นรถตัวเองที่กำลังติดไฟแดงอยู่ 5555 สงสัยลุงคิดว่า เราหาที่หยอดไม่ได้ น่ารัก แอบตลกเลย 😂

สถานที่อยากแนะนำ นอกเหนือจากที่เราไป 

Montjuïc Castle ปราสาทที่ตั้งอยู่บนเนินเขา Montjuïc เป็นจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงของบาร์เซลโลน่า มีค่าเข้าปราสาทราคาปกติอยู่ที่ 5 Euro หรือจะแค่นั่งกระเช้าขึ้นไปชมวิวอย่างเดียวก็ได้ ค่ากระเช้าไปกลับที่ 14.20 Euro
Casa Mila ผลงานของ Gaudí เป็นบ้านที่มีการใช้หินโค้งมนในก่อการสร้าง มีค่าเข้าราคาปกติอยู่ที่ 24 Euro
Casa Batlló ผลงานของ Gaudí เป็นบ้านที่ประดับด้วยความหรูหราของอัญมณี มีค่าเข้าราคาปกติอยู่ที่ 35 Euro
Carmel Bunkers จุดชมวิวตั้งอยู่ส่วนบนของ Turó de la Rovira ถ้าจะไป ก็ลงสถานีรถบัสที่ใกล้ที่สุด และเดินขึ้นเนินเขาต่ออีกหน่อย

ค่าใช้จ่าย

  • ค่าจองที่นั่งรถไฟไปบาร์เซลโลน่า 34 Euro (1,230 บาท)
  • ที่พัก 3 คืน 66.09 Euro (2,392 บาท)
  • ค่ากิน 55.35 Euro (2,003 บาท)
  • ค่าโดยสารในเมือง 4.8 Euro (173 บาท)
  • ค่าเข้าสถานที่ 12.5 Euro (452 บาท)
*ไม่รวม Eurail Pass ที่เหมาจ่ายไป 356 Euro
** ใช้เรท 36.2 บาท

สิ่งที่อยากบอก

  • จากที่เดินมองๆ ราคาของที่ระลึกแถวชายหาด มีราคาถูกกว่าแถวในตัวเมือง
  • ตอนเราไปหน้า Cathedral of Barcelona จะมีผู้หญิงแต่งหน้า แต่งตัวชุดขาวสองสามคน คอยยื่นดอกไม้ให้ จะรับหรือไม่รับก็ได้ ถ้ารับก็คือ หมายถึงถ่ายรูปกับเขา แล้วก็เสียตัง ซึ่งเราไม่รู้เท่าไร เห็นมีคนโดนมา แล้วก็โวยวายไม่ยอมจ่ายเงิน
  • Park Güell ตอนเดินค่อนข้างงงเลยแระ มันไม่ค่อยมีป้ายบอกในสวน
  • เทคนิคการขอให้คนแถวนั้นถ่ายให้ คือ มองหาคนที่ห้อยกล้องถ่ายรูปใหญ่มา 😆 และก็ใ้ห้ขอพวกวัยรุ่น หรือดูแล้วอายุยังน้อยๆ ถ่ายให้ เพราะคุยง่าย และเต็มใจถ่ายให้เรา

ติดตามต่อได้ในตอน Nice, France & Monaco (นีซ, ฝรั่งเศส และราชรัฐโมนาโก)