แผนเที่ยวลาวใต้ฉบับมือใหม่ ตะลุยลาวครั้งแรก🎒
กว่าจะได้ฤกษ์ไปโหนซิปไลน์ ก็เข้าเดือนธันวาคมแล้ว
ทริปนี้เราออกเดินทางในคืนวันที่ 4 ธันวา และกลับมาถึงอุบลฯ ในเย็นวันที่ 7 ธันวา
ดังนั้นแผนการเที่ยวครั้งนี้จะเป็น 3 วันเต็มๆ กับการเที่ยวลาวใต้ 📌
----------------------------------------------------
วิธีการเดินทางจากกรุงเทพไปปากเซที่เป็นที่นิยมกัน
🚐 วิธีที่ 1 เดินทางจากกรุงเทพ - ปากเซเลย
นั่งรถทัวร์บขส. 999 โดยตรง มี 2 รอบ คือ 19:00 และ 20:00 ราคา 900 บาท ใช้เวลาประมาณ 13 - 14 ชม.
🚐🚞✈วิธีที่ 2
2.1. เดินทางจากกรุงเทพ - อุบลฯ
มีหลายรูปแบบการเดินทาง ง่ายๆ คือ พาตัวเองไปถึงอุบลฯ ให้ได้ โดยจะใช้เครื่องบิน รถทัวร์ หรือรถไฟก็ได้ พอเราเอาตัวเรามาถึงอุบลฯ ได้แล้ว ก็ให้ไปที่สถานีขนส่งอุบลฯ เพื่อนั่งรถทัวร์หรือรถตู้ไปปากเซ
2.2. เดินทางต่อจาก สถานีขนส่งอุบลฯ - ปากเซ
🚍แบบ 1) นั่งรถทัวร์ไปถึงปากเซเลย โดยปลายทางที่ Kiengkai Bus Station ใช้เวลา 3 ชม. แต่เราสามารถขอลงระหว่างทางได้ แนะนำให้ลงตรงตลาดดาวเรือง เพราะอยู่ใกล้ใจกลางเมือง ถ้าไปลงสถานีเลย จะออกนอกเมืองมานิด รถทัวร์จะมีแค่สองรอบต่อวัน คือ 9:30 กับ 15:30 ราคา 200 บาท
🚍แบบ 2) นั่งรถตู้ 2 ต่อ คือ ต่อแรกจากสถานีขนส่งอุบลฯ ไป สถานีขนส่งที่อยู่ใกล้ด่านช่องเม็ก ราคา 100 บาท รถตู้ไม่ได้ไปจอดถึงด่านช่องเม็ก เราจะต้องนั่งรถสองแถว หรือ วิน ไปที่ด่านต่อ ซึ่งค่าสองแถว 30 บาท จากนั้นต่อสอง คือ หลังจากจบเรื่องการข้ามพรหมแดนเสร็จแล้ว เราก็จะมาอยู่ฝั่งด่านลาวเรียกว่า ด่านวังเต่า ก็นั่งรถตู้อีกต่อเข้าไปในเมืองปากเซ ซึ่งรถตู้จะมาจอดที่ Kiengkai Bus Station เหมือนกัน และสามารถขอลงระหว่างทางได้ ต่อสองจะแพงกว่ามาก ทั้งๆ ที่ระยะทางสั้นกว่า เสียไป 200 บาท
*สำหรับขากลับก็เหมือนกัน ราคาเดียวกัน วนกลับมาเส้นเดิม จะใช้วิธีการไหนก็ได้
----------------------------------------------------
xxx วันที่ 1 xxx
ในส่วนของเรา เริ่มจากเดินทางจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ไปสถานีรถไฟอุบลฯ โดยรถไฟประเภทด่วนพิเศษ ขบวนที่ 23 รถไฟออกสามทุ่มถึงอุบลฯ ประมาณ 6 โมงเช้า 🚞 จากนั้นก็เรียก Grab จากสถานีรถไฟอุบลฯ ไปสถานีขนส่งอุบลฯ ราคาไม่เกิน 100 บาท เพราะตอนเราไปถึง รถสาธารณะยังไม่เริ่มวิ่งเลย
🚌 พอมาถึงสถานีขนส่งอุบลฯ เราก็ไปที่ช่องขายตั๋วรถทัวร์ แต่! เต็มจ้า พลาดเอง มันเป็นวันหยุด ควรจะจองล่วงหน้า เราเลยต้องไปรถตู้แบบ 2 ต่อ ต่อแรกออกจากสถานีขนส่งอุบลฯ รถไม่ได้มีออกทุกๆครึ่งชั่วโมงหรือเต็มแล้วออกเลย มันมีรอบของมันเองอีก แล้วถึงเต็มรอบนั้นค่อยออก ซึ่งไม่รู้ว่ามีเวลาไหนบ้าง ตอนนั้นเรานั่งรอประมาณชั่วโมง กว่าจะได้ขึ้นรถเที่ยวก็ ตอน 9 โมงกว่าๆ
จากสถานีขนส่งที่ใกล้ด่านไปด่านช่องเม็ก เราก็นั่งสองแถว 30 บาท คนที่เก็บเงินค่าสองแถวเรา ก็ถามว่าเราจะไปไหนที่ลาว เราก็บอกไปปากเซ เขาถามว่ามีรถตู้จากด่านฝั่งลาวไปปากเซหรือยัง เราก็บอกยังไม่มี เขาเลยบอกให้ไปกับเขา 200 บาท 📸 เขาก็ถ่ายรูปเราไว้ เพื่อที่จะส่งไปให้คนฝั่งนั้นหาเราเจอ
การเดินทางผ่านตม.ลาว จะเสียค่าเข้าดินแดนและขาออกดินแดน รอบละ 100 บาท 💸
ไม่ต้องตกใจถ้าเจ้าหน้าที่ขอเงินเรา 100 บาท (แต่ฝั่งไทยไม่เสียนะ)
🙋พอออกมาจากด่านก็จะมีคนมาหาเราเยอะแยะ มีรถหรือยัง? ซื้อซิมมั้ย? แลกเงินมั้ย?
สำหรับเรามีทุกอย่างยกเว้นเงินกีบ เลยแลกที่หน้าด่านไป ตอนนั้นเราแลกหน้าด่าน
เรทที่ 1,000 บาท = 620,000 กีบ ณ วันที่ 5 ธันวาคม 2024
ในมุมมองเรา ถ้าเราไม่ได้แลกเยอะ จะแลกที่ไหนก็ไม่ต่างกันมาก
ส่วนต่างก็ 20 - 30 บาท แตกต่างกันไป อย่าเอาเรื่องแลกเงินมาทำให้ปวดหัว
อย่างโรงแรมที่เราพักเห็นเรทที่ 1,000 บาท = 630,000 กีบ ณ วันที่ 6 ธันวาคม 2024
ก็แทบไม่ต่างกัน ถ้าเราไม่ได้แลกเยอะ
อันนี้หน้าตารถตู้ฝั่งลาว เราก็ขอลงตรงตลาดดาวเรืองก่อน หารถแถวนั้นไปโรงแรม เสียไป 20,000 กีบ
จากตลาดดาวเรืองไปโรงแรม Pakse hotel & Restaurant 🏨 กว่าจะไปถึงเช็คอิน
หาร้านเช่ามอไซต์ กว่าจะเข้าที่เข้าทางก็ บ่ายแก่แล้ว หิวมากกกกกก
เข้าโรงแรมอาบน้ำก่อนเลย จากนั้นก็ออกมาเช่ามอไซต์แถวที่พัก 🛵 ได้มาวันละ 200,000 กีบ
เป็น zoomer x ไม่มีน้ำมันให้นะ เติมเอง เราเติมน้ำมันเต็มถังไปจากขีดเดียว 75,000 กีบเอง ถูกมากกกก
ที่แรกที่ไป คือ ข้าวเที่ยงเลย ซึ่งมันบ่ายแก่มากแล้ว หิวมากกก ขอแนะนำร้านนี้ ชื่อร้าน หมี่แม่น้อย
เป็นหมี่แบบโฮมเมดเลย ใช้เตาฟืน หมูกรอบ ที่กรอบมากจริงๆ อร่อยเลย แนะนำ 😋
จากนั้นก็ขี่รถชมปากเซ ตอนแรกว่าจะไปวัดหลวง แต่ส่องๆ แล้วไม่มีอะไร ขี่ผ่านเลยล่ะกัน 5555
เย็นนั้นเลยไปจบที่ตรงนั่งชิมวิวพระอาทิตย์ตก ตรงริมแม่น้ำโขง 🌅
และเดินเล่นตลาดกลางคืน M Park Night Market Pakse เป็นตลาดไม่ใหญ่มาก
แต่ก็มีของกิน ที่นั่ง ให้เลือกกินได้ระดับนึงนะ
xxx วันที่ 2 xxx
🛵มุ่งสู่น้ำตกตาดฟานที่เป็นจุดหมายหลักของทริปนี้ ทริปนี้เราไปกับเพื่อนสองคน
เส้นทางจากเมืองปากเซไปน้ำตกสบายๆ ชิวๆ มาได้เลย แต่ระยะทางก็ไกลอยู่นะ เกือบ 40 กม.
💰มีค่าเข้าน้ำตกตาดฟาน 30,000 กีบ และ ค่ามอไซต์ 10,000 กีบ หลังจากจ่ายค่าเข้าตรงหน้าทางเข้าแล้ว ก็เดินมาข้างใน ตามทางมาเลย จะเจอที่ขายตั๋วซิปไลน์ และมีร้านอาหาร วิวบาร์ให้นั่งชม เรามาค่อนข้างสายเลยแบบ เกือบ 10 โมง คนก็เยอะนะ กว่าจะได้เล่น รอนานอยู่พอสมควรเลย
ค่าซิปไลน์ราคา 1,260 บาท
ถ้าเพิ่มให้เขาถ่ายรูปให้ก็อีก 290 บาท
จะจ่ายเงินบาท เงินกีบ หรือเงินโอนไทย ได้หมด
🤳กล้องที่ถ่าย คือ มือถือเรานั่นเอง เจ้าหน้าที่จะเอามือถือเราไปถ่ายให้ ซึ่งจะเล่นซิปไลน์คู่ขนานไปพร้อมกับเรา ดังนั้นใครกล้องถ่ายวิดีโอไม่สวย จะเสียดายแย่เลยนะ ❗️แล้วก็จะบอกว่า กว่าจะถึงตาเราเล่น ก็ยืนรอสักพักใหญ่ๆ เหมือนกัน เพราะเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีเยอะ เขาต้องรอให้เจ้าหน้าที่วนกลับมา เพื่อเป็นตากล้องให้เรา แต่ถ้าใครไม่ได้จ้าง จะแซงคิว บินไปก่อนเลยก็ได้นะ ✅
👉 ซิปไลน์จะมีเส้นหลัก 3 เส้น
เส้นที่ 1 วิวสวยที่สุด ระยะทาง 432 เมตร ความสูง 257 เมตร ตากล้องจะเล่นซิปไลน์อีกเส้นขนานไปกับเรา
เส้นที่ 2 เส้นนี้ระยะทาง 322 เมตร เมตร มีเพียงเส้นเดียว ตากล้องที่มาด้วยจะเล่นพร้อมเราเลย
ภาพที่ได้จะเป็นภาพใกล้ชิด โดยเขาจะอยู่ด้านหน้าเรา ใช้ขาเกี่ยวขาเราไว้เพื่อไปพร้อมกัน
ระหว่างเส้นที่ 2 ไปเส้นที่ 3 จะต้องเดินขึ้นบันไดที่ชันระยะทาง 100 เมตร เหนื่อยเหมือนกัน
และมีซิปไลน์ระยะทางสั้นๆ อารมณ์ข้ามต้นไม้ไปอีกฝั่งเฉยๆ ดังนั้นไม่ขอนับเป็นเส้นที่ 4 ล่ะกันนะ
เส้นที่ 3 ระยะทาง 240 เมตร เป็นเส้นที่สั้นที่สุด แต่ก็เห็นน้ำตกทุกเส้นนะ
เส้นนี้จะเหมือนกับเส้นที่ 2 ตรง ตากล้องจะไปกับเราเลย
เพราะเราไม่เห็นร้านอื่นเลย แต่ในตัวน้ำตกก็มีร้านอาหารนะ 🍚 ตรงร้านข้างทางที่เรากิน คนเยอะมาก และรอค่อนข้างนานพอสมควรเลย เพราะมีคนทำอยู่ 2 คน กับลูกค้ามหาศาล
💰มีค่าเข้าน้ำตกตาดเยือง 30,000 กีบ และ ค่าจอดมอไซต์ 20,000 กีบ
🐂ก่อนเดินเข้าไปข้างในดูน้ำตก แวะเลี้ยวซ้ายดูน้องวัวก่อนได้นะ วัวเยอะมาก
ไม่กลัวคนด้วย มีจุดนั่งปิคนิคชิวๆ กับน้องวัวด้วยนะ
เดินเข้ามาข้างในสุด จะมีศาลาเล็กๆ แบบนี้ ด้านหน้าศาลาจะเป็นน้ำตก เย็นสบาย
เราสามารถเดินลงไปด้านล่างได้ แต่ระวังลื่นและเปียก ละอองน้ำจากน้ำตกจัดเต็มมาก 💦
จะบอกว่าใครขี่มอไซต์ไม่ชำนาญ ไม่แนะนำให้ขี่ขึ้นมานะ ทางค่อนข้างสูงชั้นมากๆ
บางจุดเหมือนภูทับเบิกเลย ทางลาดชั้นลงมายาวมาก หวาดเสียว ดังนั้นไม่ชำนาญอย่าขี่มอไซต์ขึ้นมา
แต่ถ้าอยากขึ้นมา ตรงทางเข้าจะมีบันไดสูงชันเกิ๊นนนน ให้เราเดินขึ้นมาบนวัดได้ จอดมอไซต์ด้านล่างได้
จุดชิมวิวระหว่างทางที่ขี่มอไซต์ขึ้นมาบนวัด
ค่ำคืนนี้แวะกินหมูกระทะ ที่ร้าน Pho Lankham จริงๆ ร้านนี้ดังเรื่องเฝอ แต่เราอยากกินหมูกระทะ 😅
xxx วันที่ 3 xxx
เริ่มต้นเช้าที่สดใส🌞 ขี่มอไซต์ไปเยี่ยมชมปราสาทหินวัดพู เป็นที่สุดท้ายก่อนข้ามกลับไปฝั่งอุบลฯ
แต่แล้ว‼️เส้นทางก็พามาผจญภัยอย่างไม่คาดคิด ด้วยระยะทาง ถนนดินเต็มไปด้วยฝุ่น เกือบ 8 กิโลเมตร บางจุดนี้ดินชัดๆ แบบไม่ใช่ดินที่อัดเลย ล้อฟรี ลื่นไปหลายรอบ😱จะถอยก็ไม่ได้แล้ว โชคดีที่ไม่ล้ม
สภาพแดงไปทั้งคนทั้งรถ กินฝุ่นแทนมื้อเที่ยงได้เลย ยิ่งบางช่วงมีรถยนต์วิ่งผ่าน
ฝุ่นฟุ้งกระจายประหนึ่งหมอกเลยทีเดียว 🌫
สี่เหลี่ยมแดง คือ เส้นทางที่เราใช้ อย่าใช้เชียว‼️ เรามารู้ทีหลังว่าเส้นนี้
สร้างมา 10 ปีแล้ว ก็ไม่เสร็จสักที เป็นถนนดินจริงๆ ดังนั้นหลีกเลี่ยงเด้อ
กว่าจะมาถึงปราสาทหินวัดพู ก็เสียพลังงานไปมากโขเลย
💰มีค่าเข้าวัด 55,000 กีบ และ ค่าจอดมอไซต์ 10,000 กีบ
จากทางเข้าไปตัวปราสาทจะต้องนั่งรถรางเข้าไป ราคารวมแล้ว ขึ้นได้ฟรีเลย
เข้าไปไม่ลึก นั่งไม่ถึง 5 นาที ก็ถึงแล้ว
ปราสาทหินวัดพู เป็นปราสาทหินขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้น
ในสมัยของขอมเรืองอำนาจสร้างในราวพุทธศตวรรษที่ 12
และเป็นมรดกโลกแห่งที่สองของประเทศลาว 🎗
เดินเข้ามาจะมีตัวปราสาทสองฝั่ง ฝั่งขวาเดินเข้าไปได้
แต่ฝั่งซ้ายตอนเราไป กำลังซ่อมแซมอยู่
เดินเข้าไปด้านในเรื่องๆ จะเห็นมุมกว้างที่สวยมากๆ เพราะเป็นทางเดินขึ้นเขาเรื่อยๆ
ตัวปราสาทตั้งอยู่ตีนเขา เราสามารถเดินขึ้นไปข้างบนสุดได้ แต่เราไปไม่ถึง เอาแค่นี้พอ
เพราะร้อนมากและเหนื่อยจากการผจญภัญบนถนนลูกรังมา😫
ขากลับไปปากเซ น้ำมันจะหมด เลยแวะเต็ม 25,000 กีบข้างทาง ได้มาครึ่งถัง
แถวนั้นจะไม่มีปั้มนะ แต่มีน้ำมันขายในขวดตามร้านขายของชำอยู่
🛵คืนมอไซต์ และให้รถตู้มารับที่โรงแรมไปส่งด่านวังเต่า เสีย 200 บาทและเสียค่าผ่านแดน 100 บาทเหมือนเดิม พอถึงฝั่งไทย ตอนแรกจะนั่งรถตู้ไปขนส่งอุบลฯ แต่รถตู้ไม่มีเลย ตอนนั้นเราไปถึง 16:30
แล้วเขาบอกรถตู้มีอีกทีตอน 18:00 นานมาก แต่โชคดี มีคนแถวนั้นชวนเราหารค่ารถ
🚙ได้มา 6 คน ราคา 1100 บาท ก็โอเค ดีกว่ารออีกนานเลย
🛫ใครจะนั่งรถทัวร์หรือรถไฟกลับกรุงเทพฯ กลับคืนนี้เลยก็ได้ แต่เราเลือกนอนต่ออีกวัน เพราะเราจองตั๋วเครื่องบินกลับรุ่งเช้าอีกวัน ขอแนะนำโฮสเทล ชื่อ BUNK Ubon Hostel อยู่ใกล้สนามบินมากกกก
มีบริการรับ-ส่งสนามบินฟรีด้วยนะ คนดูแลโฮสเทล เป็นเจ้าของเองเลย ดูแลคนเดียว เทคแคร์ดีมาก
มีให้เรายืมมอไซต์ ขี่ไปเซเว่นด้วย ใจดีมากๆ เรานั่งเมาท์สนุกสนานกับเจ้าของโฮสเทล
เจ้าของใจดีมากเลยอยากมาช่วยรีวิวที่พักให้ เราจองผ่าน Agoda คืนละ 250 บาท
แต่จริงๆ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้โทรจองจะดีกว่า เพราะเจ้าของจะได้รับเงินเต็มๆ 📱โทร. 081 622 4817