บันทึกการเดินทางรอบยุโรปของผู้หญิงเอเชียตัวเล็กๆ ตอนที่ 15 Amsterdam, Netherlands (อัมสเตอร์ดัม, เนเธอร์แลนด์)

บันทึกการเดินทางรอบยุโรปของผู้หญิงเอเชียตัวเล็กๆ 
ตอนที่ 15 Amsterdam, Netherlands (อัมสเตอร์ดัม, เนเธอร์แลนด์)
44 วัน 20 เมือง 16 ประเทศ

ตอนที่ 15 จาก 17

สารบัญของบันทึก 

1. เตรียมความพร้อม
2. Barcelona, Spain (บาร์เซโลน่า, สเปน) [3 คืน]
3. Nice, France & Monaco (นีซ, ฝรั่งเศส และราชรัฐโมนาโก) [3 คืน]
4. Milan, Italy & Lugano Switzerland (มิลาน, อิตาลี และลูกาโน่ สวิสเซอร์แลนด์) [2 คืน]
5. Venice, Italy (เวนิส, อิตาลี) [2 คืน]
6. Ljubljana & Bled, Slovenia (ลูบลิยานา และเบลด, สโลวีเนีย) [3 คืน]
7. Zagreb, Croatia (ซาเกร็บ, โครเอเชีย) [2 คืน]
8. Budapest, Hungary (บูดาเปสต์, ฮังการี) [3 คืน]
9. Vienna, Austria & Bratislava, Slovakia (เวียนนา, ออสเตรีย และบราติสลาวา, สโลวาเกีย) [3 คืน]
10. Prague, Czech Republic (ปราก, สาธารณรัฐเช็ก) [4 คืน]
11. Kraków, Poland (คราคูฟ, โปแลนด์) [6 คืน]
12. Morskie Oko, Zakopane, Poland (ทะเลสาบมอร์สเกี๊ยะโอโกะ สโกเปีย, โปแลนด์) [0 คืน]
13. Berlin, Germany (เบอร์ลิน, เยอรมัน) [3 คืน]
14. Hamburg, Germany (ฮัมบูร์ก, เยอรมัน) [3 คืน]
15. Amsterdam, Netherlands (อัมสเตอร์ดัม, เนเธอร์แลนด์) [2 คืน]
16. Antwerp, Belgium (แอนต์เวิร์ป, เบลเยี่ยม) [2 คืน]
17. Luxembourg City, Luxembourg (ลักเซมเบิร์ก, ราชรัฐลักเซมเบิร์ก) [2 คืน]

อยากให้อ่านก่อน

บันทึกนี้เล่าโดย K.Natri เป็นการเล่าจากประสบการณ์ตรงของเราเอง โดยการเล่าเรื่องได้ใช้ความรู้สึก ความคิดเห็นของเราแต่งเติมเข้าไปในเนื้อหา เพื่อเพิ่มอรรถรสในการเล่าเรื่อง นอกจากนี้เราได้รวบรวมข้อมูลบางส่วนที่ได้มาจากการอ่านในเว็บไซต์ต่างๆ ตามบอร์ดในสถานที่จริง และจากการฟังมาจากไกด์ รวมทั้งคนท้องถิ่น เพื่อนำมาบรรยายให้ดูมีความรู้ขึ้น 😁

สำหรับการท่องเที่ยวยุโรปครั้งนี้ เป็นครั้งแรกของเราเลยที่ได้เที่ยวประเทศในยุโรป (ไม่รวมฝรั่งเศสที่มาเรียนต่อในยุคโควิด) และเป็นการเดินทางคนเดียวตั้งแต่ครั้งแรกเลย ดังนั้นเรายังไม่มีประสบการณ์ท่องเที่ยวในยุโรปดี แต่เราพยายามเก็บทุกที่ที่ไปได้และอยากไป เพราะไม่รู้จะมีโอกาสได้เที่ยวแบบนี้อีกเมื่อไร สำหรับทริปนี้เราไม่ค่อยได้ออกไปเที่ยวช่วงตอนกลางคืน เราเป็นแค่ผู้หญิงเอเชียตัวเล็กคนเดียว ยังไม่กล้ามากพอ ขอเซฟตัวเองก่อนนะ และในทริปนี้เราพยายามเลือกไปสถานที่ธรรมชาติมากกว่าสายมิวเซียม เพราะเป็นคนไม่อินกับมิวเซียมและศิลปะนัก ค่อนข้างแนวสายลุยๆ มากกว่า 💚


มุ่งสู่ Amsterdam จาก Hamburg

Amsterdam อีกหนึ่งเมืองที่เราตั้งใจต้องไปให้ได้ในทริปนี้เลย เพราะอยากไปเที่ยวชมหมู่บ้านกังหันลม และดูคลองของเขา ถามว่าประทับใจอย่างที่เราคิดไว้ไหม ก็ตอบว่า ไม่นะ เราคาดหวังไว้สูงกว่านี้ 😂 55555 แต่มันก็ยังสวยงามอยู่ อาจจะไม่ใช่สไตล์เรา หรืออย่างที่เราคาดไว้ แต่ช่วงที่เราไปเป็นวันสำคัญของเนเธอแลนด์ด้วย นั่นคือ King's Day 👑 เราเลยรู้สึกตื่นเต้นมากๆ กับงานเทศกาลมากกว่าเที่ยวชมเมืองซะอีก อันที่จริงเราไม่รู้มาก่อนว่าจะมาตรงกับวันนี้ เราแค่เที่ยวแบบรันคิวเมืองต่อๆ กันมา แล้วบังเอิญมาตรงกับวันนี้พอดี 

เรานั่งรถไฟใช้ Eurail Pass จาก Hamburg ไป Amsterdam จะไม่มี Direct train จะต้องมีเปลี่ยนขบวนอย่างน้อยหนึ่งรอบ เราเลือกขบวนแบบเปลี่ยนหนึ่งรอบ เรานั่งออกจาก Hamburg HBF ตอน 9:58 น. มาถึง Duisburg HBF ตอน 13:11 น. ขบวนนี้ไม่ต้องจองที่นั่ง ใช้เวลาไป 3 ชั่วโมง 13 นาที มาถึงสถานีเมือง Duisburg เราก็กินข้าวเที่ยง และไปนั่งดื่มมัทฉะรอ จนใกล้ 15:27 น. ก็ไปรอที่ชานชาลา แต่แล้วรถไฟ Delay 50 นาที 😐 แล้วงี้ฉันจะกลับไปซื้อน้ำอีกแก้วเพื่อนั่งรอในร้าน ก็เปลืองเงินอีก ก็เลยยืนรอตรงชานชาลา กว่าจะออกจากสถานีนี้ก็ 16:07 น. ไปถึง Amsterdam Centraal ก็เย็นเลย 17:29 น. ใช้เวลาไป 2 ชั่วโมง 2 นาที สำหรับขบวนนี้ต้องจองที่นั่ง 3 Euro คนเยอะมาก

เราพักที่ไหนใน Amsterdam

ที่พักที่ Amsterdam แพงมากกกกกก 😭 แล้วเราเพิ่งรู้ว่าตอนเราไปมันช่วงวัน King's Day ยิ่งแพงเลย ตอนที่เรากำลังจองที่พักนี้สองอาทิตย์ก่อนมา เราไม่รู้ว่าทำไมถึงแพงมากช่วงวันที่เราจอง มันขึ้นมาสองเท่าเลย แต่เราก็ต้องจองๆ ไป เพราะมันรันคิวต้องไปเมืองนี้แล้ว เพราะทริปเราต้องจบวันที่ 2 พฤษภาคม เราเลยต้องยอมจ่ายราคาสองเท่า แถมนอกเมืองออกมาเลย เพราะในเมืองคือ โฮเสทลแพงมาก แพงแบบได้ราคาโรงแรมในวันปกติเลย 💸 เราเลยจองไป 2 คืนพอ จริงๆ อยากอยู่ 3 คืน แต่แพง เราจองที่พักจากวันที่ 26 ถึง 28 เมษายน ราคารวมภาษี 79.85 Euro แบบ Female dorm 6 เตียง ทำเลที่ตั้งไม่ดีเลย ไกลจากเมืองมาก ประมาณ 5 กิโลเมตรได้ แต่มีรถไฟนั่งจาก Amsterdam Sloerdijk ถึง Amsterdam Centraal ใช้เวลาแค่ 5 นาที 
ที่พักที่นี่เราชอบนะ มีที่ทำครัว ห้องน้ำในห้องนอนเลย สะดวกดี แต่ห้องน้ำแย่มาก ท่อตัน เราอาบแค่คืนแรก คืนสองอาบไม่ได้ เพราะเวลาอาบแล้วน้ำท่วมเลย แจ้งเจ้าหน้าที่แล้ว ก็ไม่มาดูให้ ส่วนที่ทำครัวอยู่ในห้องนอน ทำกับข้าวกินเล่นในห้องนอน ประหยัด สะดวกดี รูทเมทที่นี่ก็ดี มาแนวเที่ยวแบบพักผ่อนกัน และมางานเทศกาลวัน King's Day

เราไปไหนมาบ้างใน Amsterdam

เราได้เที่ยว Amsterdam เต็มๆ แค่วันเดียว คือวันที่ 27 ตรงกับวัน King's Day พอดี ดังนั้นพวกร้าน พิพิธภัณฑ์อะไรก็จะปิดหมด ส่วนมากที่เปิดจะพวกบาร์ ร้านขายของที่ระลึกใหญ่ๆ หรือร้านตามสถานที่ท่องเที่ยว
 
Zaanse Schans ตอนช่วงเช้าเราเริ่มจากไปหมู่บ้านกังหันลมที่อยู่นอกเมือง Amsterdam ก่อน จะไปโดยใช้รถไฟหรือรถบัสก็ได้ เราเลือกนั่งบัส เพราะถูกกว่าและมาจอดที่หน้าทางเข้าเลย เรามาขึ้นบัสที่ Amsterdam Centraal พอมาถึงก็ดูแผงตารางเวลารถ จะมีบอกว่ารถบัสสาย 391 ไป Zaanse Schans จะจอดที่ชานชาลาไหน แล้วออกกี่โมง เราก็ไปยืนรอที่ชานชาลานั้น📌 เราซื้อตั๋วจากตู้กดตั๋วรถโดยสารทั่วไป เราเลือกแบบราคา 11.5 Euro เพราะใช้ในภูมิภาค Zaan region ได้ทั้งวัน ดังนั้นมันก็คือรวมไปกลับเลย เรานั่งจากเมืองอัมสเตอร์ดัมถึงหมู่บ้านกังหันลม ใช้เวลาประมาณ 40 นาที
เราสามารถเข้าชมบริเวณ Zaanse Schans ได้ฟรีเลย กินพื้นที่บริเวณกว้าง มีอะไรให้เราได้ชม ได้กินหลายอย่าง จะมีทั้งร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก พื้นที่สำหรับทำ workshop และพิพิธภัณฑ์หลายแบบ บางที่เสียค่าเข้า บางที่ฟรี
เราไปเดินเล่นที่แรก คือ Clog Making Demonstration หนึ่งในสถานที่บริเวณหมู่บ้านกังหันลมที่คนนิยมเข้าไป เราสามารถเข้าไปชมการทำรองเท้าได้ฟรีเลย 👞 ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ตรงทางเข้าก็จะมีร้านขายของที่ระลึก
จากนั้นเราก็ไป Cheese store  เราใช้เวลาที่นี่นานมาก เพราะเดินชิมชีสฟรีเกือบทุกแบบเลย มีหลายแบบให้ชิม วางให้ชิมอยู่บน 3 เคาน์เตอร์ เราจัด smoked cheese 9.95 Euro เป็นชีสที่เราชิมแล้วชอบมากที่สุด 😋
เราไม่ได้ไปเข้าที่อื่นเลย นอกจากร้านรองเท้ากับชีส จริงๆ มีมากกว่านี้ แต่ว่าเราอยากรีบกลับตัวเมือง เนื่องจากวันนี้มีงาน King's Day เราก็ไปเดินถ่ายรูปแถวกังหันลมเป็นที่สุดท้าย ก่อนนั่งบัสกลับเข้าเมือง
ก่อนกลับเข้าเมือง Amsterdam เราแวะงาน King's Day ของภูมิภาคนี้ก่อน เพราะตอนนั่งรถบัสขาไปหมู่บ้านกังหันลม เราเห็นมีคนเยอะมากๆ ขากลับเข้าเมืองเลยว่าจะแวะที่นี่ก่อน คนเยอะมาก เยอะจริงๆ เยอะจนเดินดูไรไม่ได้เลย 😵 โดยเฉพาะตรงกลางงานที่มีลานอาหาร และเครื่องเล่น เราเข้าไปได้แปปนึง แล้วถึงกับต้องเดินกลับออกมาเลย เวียนหัว คนเยอะเกิน
ในวัน King's Day ผู้คนจะได้รับอนุญาตให้ขายของบนถนนได้ฟรี โดยไม่ต้องมีใบอนุญาต จัดขึ้นในสวนสาธารณะ และตามท้องถนน โดยส่วนมากเป็นสินค้าของตัวเอง ที่เอามาขายแบบมือสอง


Damrak Waterfront จุดถ่ายภาพที่ดีงามมาก อยู่ใกล้สถานี Amsterdam Centraal แนะนำต้องมาถ่ายกับตึกสีสันสวยงามนี้เลย จุดถ่ายภาพที่เราชอบที่สุดของเมือง แล้วบริเวณนี้ยังเป็นที่ซื้อตั๋วสำหรับล่องเรือ


King's Day ไม่ใช่สถานที่นะ แต่เป็นวันสำคัญอย่างมากของชาวฮอลแลนด์ หรือที่เรียกว่า Koningsdag เป็นวันที่เฉลิมฉลองพระชนมพรรษาของกษัตริย์ Willem Alexander 👑 มีจัดงานทุกปีด้วยธีมงานสีส้ม จัดทั่วทุกภูมิภาคของเนเธอแลนด์ อย่างในเมือง Amsterdam จัดทั้งเมืองเลย ปิดถนน ปิดระบบขนส่งสาธารณะในตัวเมือง แต่ยังใช้ Metro อะไรได้อยู่ ยกเว้น Tram 
เฉลิมฉลองกันทั้งบนบกและในน้ำเลย สนุกมากๆ บรรยากาศคึกคัก มีเสียงดนตรี ให้โยกย้ายตัว มีเบียร์ขายให้ดื่ม ส่วนมากจะขายยี่ห้อ Heineken 🍻
เรืออัดแน่นไปด้วยผู้คนสุดๆ 
ตลอดทางนอกจากของมือสอง ของที่ผู้คนเอามาขายแล้ว ยังมีของสำหรับใส่ในงานแบบเข้าธีม อารมณ์เหมือนงานสงกรานต์บ้านเราที่มีเสื้อลายดอก ปืนฉีดน้ำ ที่นี่ก็มีเหมือนกัน มีของสีส้มขาย พวกเสื้อ หมวก โบว์ ของประดับ
เราจัดหมวกสีส้มไปหนึ่งใบ 5 Euro  แพงมาก 💸 ใส่ให้เข้ากับบรรยากาศซะหน่อย
มีกิจกรรมเกมเล็กๆ อย่าง King’s Challenge ดึงข้อชิงเงินรางวัล 💰
เราเดินตามถนนไปเรื่อยๆ ดื่มดำบรรยากาศ แต่ว่ากลิ่นควันบุหรี่ ควันอะไรไม่รู้ เยอะแยะไปหมด มีทำให้อารมณ์ดีได้บ้าง 55555 😂
สำหรับความสกปรกจากขยะ บอกเลยว่าเต็มพื้น เหมือนวันปล่อยผี สกปรกไปหมดทุกมุม

สถานที่อยากแนะนำ นอกเหนือจากที่เราไป 

Leidseplein Square จัตุรัสศูนย์กลางแหล่งรวมสถานบันเทิงยามค่ำคืน
De Wallen ย่านโคมแดงที่ใหญ่ที่สุดและเป็นที่รู้จักดีที่สุดในอัมสเตอร์ดัม
Albert Cuyp Market สตรีทมาร์เก็ตกลางแจ้งขนาดใหญ่
Bloemenmarkt ตลาดดอกไม้ลอยน้ำแห่งเดียวในโลก
Rijksmuseum พิพิธภัณฑ์แห่งชาติของเนเธอร์แลนด์เกี่ยวกับกับศิลปะและประวัติศาสตร์ของชาวดัตช์

ค่าใช้จ่าย

ค่าจองที่นั่งไปอัมสเตอร์ดัม 3 Euro (108 บาท)
ที่พัก 2 คืน 79.85 Euro (2,890 บาท)
ค่ากิน 41.74 Euro (1,510 บาท)
ค่ารถโดยสาร 17.9 Euro (647 บาท)
*ไม่รวม Eurail Pass ที่เหมาจ่ายไป 356 Euro
** ใช้เรท 36.2 บาท ต่อ Euro

สิ่งที่อยากบอก

  • ค่าเข้าห้องน้ำที่หมู่บ้านกังหันลม 1 Euro
  • สถานีรถไฟ Amsterdam Centraal ถ้าไม่มีตั๋วรถโดยสาร จะไม่สามารถสแกนเข้าไปโซนด้านในได้ (โซนที่เป็นทางขึ้นไปบนชานชาลารถไฟ) 



ติดตามต่อได้ในตอน Antwerp, Belgium (แอนต์เวิร์ป, เบลเยี่ยม)