บันทึกการเดินทางรอบยุโรปของผู้หญิงเอเชียตัวเล็กๆ ตอนที่ 16 Antwerp, Belgium (แอนต์เวิร์ป, เบลเยี่ยม)

บันทึกการเดินทางรอบยุโรปของผู้หญิงเอเชียตัวเล็กๆ 
ตอนที่ 16 Antwerp, Belgium (แอนต์เวิร์ป, เบลเยี่ยม)
44 วัน 20 เมือง 16 ประเทศ

ตอนที่ 16 จาก 17

สารบัญของบันทึก 

1. เตรียมความพร้อม
2. Barcelona, Spain (บาร์เซโลน่า, สเปน) [3 คืน]
3. Nice, France & Monaco (นีซ, ฝรั่งเศส และราชรัฐโมนาโก) [3 คืน]
4. Milan, Italy & Lugano Switzerland (มิลาน, อิตาลี และลูกาโน่ สวิสเซอร์แลนด์) [2 คืน]
5. Venice, Italy (เวนิส, อิตาลี) [2 คืน]
6. Ljubljana & Bled, Slovenia (ลูบลิยานา และเบลด, สโลวีเนีย) [3 คืน]
7. Zagreb, Croatia (ซาเกร็บ, โครเอเชีย) [2 คืน]
8. Budapest, Hungary (บูดาเปสต์, ฮังการี) [3 คืน]
9. Vienna, Austria & Bratislava, Slovakia (เวียนนา, ออสเตรีย และบราติสลาวา, สโลวาเกีย) [3 คืน]
10. Prague, Czech Republic (ปราก, สาธารณรัฐเช็ก) [4 คืน]
11. Kraków, Poland (คราคูฟ, โปแลนด์) [6 คืน]
12. Morskie Oko, Zakopane, Poland (ทะเลสาบมอร์สเกี๊ยะโอโกะ สโกเปีย, โปแลนด์) [0 คืน]
13. Berlin, Germany (เบอร์ลิน, เยอรมัน) [3 คืน]
14. Hamburg, Germany (ฮัมบูร์ก, เยอรมัน) [3 คืน]
15. Amsterdam, Netherlands (อัมสเตอร์ดัม, เนเธอร์แลนด์) [2 คืน]
16. Antwerp, Belgium (แอนต์เวิร์ป, เบลเยี่ยม) [2 คืน]
17. Luxembourg City, Luxembourg (ลักเซมเบิร์ก, ราชรัฐลักเซมเบิร์ก) [2 คืน]

อยากให้อ่านก่อน

บันทึกนี้เล่าโดย K.Natri เป็นการเล่าจากประสบการณ์ตรงของเราเอง โดยการเล่าเรื่องได้ใช้ความรู้สึก ความคิดเห็นของเราแต่งเติมเข้าไปในเนื้อหา เพื่อเพิ่มอรรถรสในการเล่าเรื่อง นอกจากนี้เราได้รวบรวมข้อมูลบางส่วนที่ได้มาจากการอ่านในเว็บไซต์ต่างๆ ตามบอร์ดในสถานที่จริง และจากการฟังมาจากไกด์ รวมทั้งคนท้องถิ่น เพื่อนำมาบรรยายให้ดูมีความรู้ขึ้น 😁

สำหรับการท่องเที่ยวยุโรปครั้งนี้ เป็นครั้งแรกของเราเลยที่ได้เที่ยวประเทศในยุโรป (ไม่รวมฝรั่งเศสที่มาเรียนต่อในยุคโควิด) และเป็นการเดินทางคนเดียวตั้งแต่ครั้งแรกเลย ดังนั้นเรายังไม่มีประสบการณ์ท่องเที่ยวในยุโรปดี แต่เราพยายามเก็บทุกที่ที่ไปได้และอยากไป เพราะไม่รู้จะมีโอกาสได้เที่ยวแบบนี้อีกเมื่อไร สำหรับทริปนี้เราไม่ค่อยได้ออกไปเที่ยวช่วงตอนกลางคืน เราเป็นแค่ผู้หญิงเอเชียตัวเล็กคนเดียว ยังไม่กล้ามากพอ ขอเซฟตัวเองก่อนนะ และในทริปนี้เราพยายามเลือกไปสถานที่ธรรมชาติมากกว่าสายมิวเซียม เพราะเป็นคนไม่อินกับมิวเซียมและศิลปะนัก ค่อนข้างแนวสายลุยๆ มากกว่า 💚

มุ่งสู่ Antwerp จาก Amsterdam

เมือง Antwerp อยู่ทางตอนเหนือของเบลเยี่ยม ตอนแรกเราลังเลมาก ว่าจะไป Antwerp หรือ Brussels ตามอ่านหลายโพสต์ หลายความคิดเห็นก็บอกว่า Antwerp เพราะมีอะไรให้ดูมากกว่า ส่วน Brussels เหมาะสำหรับเดินยามค่ำคืน ช้อปปิ้ง 👉เราก็เลยเลือกไป Antwerp จะเรียกว่าประทับใจหรือชอบไหม ก็ตอบว่าไม่ เรียกว่าเฉยๆ มากกว่า หรือเพราะเราไปมาหลายเมืองแล้วก่อนหน้านี้ เจอเมืองที่ดีกว่า ประทับใจกว่า และอาจจะเบื่อๆ แล้วมั้ง 😅 แบบมาเจอเมืองที่มีอะไรน้อยกว่าเมืองที่เคยไปมาแล้ว 

เราขอแนะนำหากมาเมือง Antwerp แล้ว ต้องลอง 4 สิ่ง นั่นคือ วาฟเฟิล✅ ช็อกโกแลต✅ เบียร์✅ และมันฝรั่งทอด✅ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยว เราเฉยๆ มากกับที่นี่ ไม่ได้มีอะไรน่าประทับใจนัก อย่างมากก็ตึกสีสันสวยงามบริเวณ Grote Markt 🚄เรานั่งรถไฟใช้ Eurail Pass จากสถานี Amsterdam Centraal ตอน 14:28 น. ถึงสถานี Avers Central ตอน 16:16 น. ใช้เวลาไป 1 ชั่วโมง 48 นาที เป็นขบวนที่ไม่ต้องจองที่นั่ง 

เราพักที่ไหนใน Antwerp

เราพักไกลจากตัวเมือง เพราะที่พักแพงไปหมด ตัวเลือกก็น้อย ที่พักที่เราเลือกก็ไม่ได้ไกลมาก พอเดินได้ประมาณ 25 นาที เราพัก 2 คืน ที่ Yust Antwerp จากวันที่ 28 ถึง 30 เมษายน ราคารวมภาษี 61.99 Euro แบบ Female dorm 8 เตียง ที่พักดีมากๆ แบบอารมณ์นอนโรงแรมเลย แต่เป็นแบบนอนรวม เรานอนเตียงบน คือ สูงมาก ปีนขึ้นยากด้วย 😬 เพราะมีที่ยึดด้านบนข้างเดียว เสียวจะตกมาหลังหักตลอดเวลา
ถึงแม้จะออกแบบคล้ายโรงแรม แต่ก็มีห้องครัวอย่างดีให้ใช้ รวมทั้งโต๊ะทานอาหารในห้อง พร้อมแอร์ด้วย สำหรับส่วน Lobby ด้านล่าง มีโซฟา โต๊ะทำงาน ชั้นหนังสือ และมีกาแฟ ชาให้ดื่มฟรี 

เราไปไหนมาบ้างใน Antwerp

Station Antwerpen-Centraal สถานีรถไฟกลางของเมือง ด้านในมีส่วนที่ตกแต่งแบบอลังๆ อยู่ เข้ามาถ่ายรูปได้ แต่ก็ไม่ได้เวอร์วังทั้งหมด พอมีอะไรให้ชม ให้ถ่ายรูปได้


Chocolate Nation ตั้งอยู่ตรงข้ามกับสถานีรถไฟ เป็นพิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตเบลเยียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้านในจะมีร้านขายของเกี่ยวกับช็อกโกแลต กลิ่นหอมมากกกก🍫 เราไม่ได้เข้าไปในส่วนพิพิธภัณฑ์ เพราะกลัวไม่คุ้ม เราอยากเอาเงินส่วนนี้ไปซื้อช็อกโกแลตกินมากกว่า สายงก 55555 แต่ถ้าใครอยากเข้าจะมีค่าเข้าราคาปกติ 18.90 Euro

Diamond Quarter เราทำได้เพียงเดินผ่านไป 😂 บริเวณนี้เป็นแหล่งขายเพชร ที่มีหลายร้านตั้งกระจุกรวมกัน 💎เมืองนี้เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องเพชรเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก มีทั้งเพชรดิบและเพชรเจียระไนมากมายที่เข้ามาในอุตสาหกรรมเพชรในเมืองนี้


Wilde Zee Neighbourhood ทางเท้าสำหรับคนเดินที่มีหลายจัตุรัส เป็นแหล่งร่วมสินค้าแบรนด์เนม ร้านอาหาร และร้านขายของต่างๆ


Nello & Patrache Statue เดินต่อมาเรื่องๆ เจอรูปปั้นเด็กนอนกับน้องหมา น่ารักมาก ตั้งอยู่ด้านหน้า Cathedral of Our Lady Antwerp ตอนเราไปมหาวิหารปิดปรับปรุง ถ่ายรูปสวยๆ ด้านหน้าของมหาวิหารไม่ได้เลย


Grote Markt เราเดินมาจัตุรัสกลาง เป็นจุดที่เราชอบที่สุดในเมืองนี้ เพราะมีอาคารสีให้ถ่ายรูป แล้วว่าจุดนี้คือจุดที่โดดเด่นที่สุดของเมืองในเรื่องสถาปัตยกรรม😍 บริเวณโดยรอบ มีร้านอาหารและคาเฟ่รายล้อม


Het Steen เราเดินไปทางท่าเรือ จะเจอป้อมปราการสมัยยุคกลางที่หลงเหลืออยู่ สามารถเดินเข้าไปถ่ายรูปข้างในได้เลย แต่ถ้าเข้าส่วนชมพิพิธภัณฑ์จะมีค่า 7 Euro
เดินทะลุป้อม จะเจอท่าเรือ 👉แอนต์เวิร์ปเป็นเมืองที่มีท่าเรือใหญ่เป็นอันดับสองในยุโรป


Harmoniepark อยู่ใกล้ๆ ที่พักที่เราพัก ตอนเราไป มีเด็กๆ เตะบอลเล่นกันสนุกสนาน มีคนนั่งเล่น นอนอาบแดดกันเต็มไปหมด

สถานที่อยากแนะนำ นอกเหนือจากที่เราไป 

Museum Plantin-Moretus พิพิธภัณฑ์แท่นพิมพ์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก มีห้องสมุดตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 และคอลเล็กชั่นงานศิลปะล้ำค่า มีค่าเข้าราคาปกติ 6 Euro
Antwerp Zoo หนึ่งในสวนสัตว์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก แต่มีความทันสมัย ความสะดวกสบาย ที่สำคัญมีคู่รักโคอาล่าอาศัยอยู่ร่วมกัน 🐨

ค่าใช้จ่าย

ที่พัก 2 คืน 61.99 Euro (2,244 บาท)
ค่ากิน 35.19 Euro (1,273 บาท)
ค่ารถโดยสาร 5 Euro (181 บาท)
*ไม่รวม Eurail Pass ที่เหมาจ่ายไป 356 Euro
** ใช้เรท 36.2 บาท ต่อ Euro

สิ่งที่อยากบอก

  • เบลเยียมมีภาษาราชการสามภาษา ได้แก่ ดัตช์ (เฟลมิช) ฝรั่งเศส และเยอรมัน สำหรับ Antwerp ใช้ภาษาดัตช์เป็นภาษากลาง
  • ชาวยิวเมืองนี้ จะแต่งตัวแตกต่างจากชนชาติอื่น เราสามารถสังเกตได้ง่ายๆ เลยคือ ผู้ชายจะใส่ชุดสูทแบบทักซิโด้และสวมหมวก ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงสไตล์หมวกทุกสัปดาห์ ส่วนผู้หญิงจะกระโปรงสั้นถุงเท้าดำยาว 
  • มาประเทศเบลเยี่ยมแล้ว ต้องลอง Belgian frites ก็คล้ายๆ เฟรนช์ฟรายส์ แต่จะชิ้นหนากว่า ทำจากมันฝรั่งบินต์เจที่มีแป้ง และปรุงด้วยไขเนื้อ 👉จริงๆ แล้ว เฟรนช์ฟรายส์ มาจากเบลเยี่ยม ไม่ใช่จากฝรั่งเศส ดังนั้นเวลาไปเบลเยี่ยมอย่าสั่ง French fries ล่ะ ให้เรียกว่า potatoes fries
  • Currywrust ของเบลเยี่ยม แตกต่างกับของเยอรมันมาก ที่นี่จะเป็นไส้กรอกที่ไส้ปรุงรสแล้ว เสิร์ฟมาเป็นชิ้นยาวๆ แต่ถ้าของเยอรมันจะมีซอสมะเขือเทศและผงกะหรี่ผสมราดอยู่บนไส้กรอกที่หั่นแล้ว



ติดตามต่อได้ในตอนสุดท้าย Luxembourg City, Luxembourg (ลักเซมเบิร์ก, ราชรัฐลักเซมเบิร์ก)