Eisriesenwelt Ice Caves - Salzburg
ในบทความนี้เราจะเล่าเกี่ยวกับ Salzburg เล็กน้อย เพราะเราไม่ได้ตั้งใจมาเที่ยว Salzburg แต่ที่มาเมืองนี้เพราะมันสะดวกต่อการเดินทางไปถ้ำน้ำแข็ง Eisriesenwelt ⛄ แบบเช้าเย็นกลับได้
เชื่อเลยว่าหลายๆ คน ไม่ได้สนใจหรือไม่รู้จักสถานที่แห่งนี้แน่นอน นั่นก็เพราะมันไม่ได้อยู่ในเมืองท่องเที่ยวหลัก และบางคนไม่รู้วิธีการเดินทางไป หรือหาข้อมูลยาก เลยไม่มีความมั่นใจที่จะไป
แต่ไม่ต้องห่วงในบทความนี้เราจะบอกวิธีการไป รับรองไปถึงถ้ำแน่ๆ 😁
เราไปเที่ยวช่วงเดือนมิถุนายน เป็นช่วงหน้าร้อนเลย ใครอยากมาเที่ยวยุโรปช่วงซัมเมอร์ แต่อยากสัมผัสอากาศเย็นๆ ต้องมา เพราะที่นี่เปิดแค่ช่วงเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคมเท่านั้น เขาปิดช่วงฤดูหนาว❗ในถ้ำไม่ร้อนเลย อุณหภูมิต่ำมากๆ แนะนำให้พกเสื้อกันหนาวแบบหนามา หรือใครขี้หนาวก็ใส่ถุงมือมาก็ดีนะ เพราะจะได้จับราวบันไดที่เย็นเฉียบตอนเดินในถ้ำได้
เรานั่งรถไฟจากเมือง Salzburg ไปเมือง Werfen ก่อน ราคาปกติอยู่ที่ 9.30 Euro เพราะถ้ำตั้งอยู่ที่เมืองนี้ มีเที่ยวรถไฟหลายรอบมาก ตามสะดวกเลยเรื่องของเวลา แต่ก็แนะนำเผื่อเวลาเดินไปถ้ำด้วยนะ เพราะมีรอบเวลาของ Cable car และเวลาเข้าชมถ้ำที่ปิดเร็วอยู่ อ่านเพิ่มเติมจากที่นี่ได้เลย https://www.eisriesenwelt.at/en/kurzinfo.html จากนั้นพอถึงสถานีรถไฟ Werfen ตรงหน้าสถานีจะมีรถบัสสีน้ำเงินจอดอยู่ 🚌 เขียนชัดเจนเลยว่าไปถ้ำ ให้ขึ้นรถไปได้เลย ซื้อตั๋วกับคนขับ
โดยตอนเราซื้อเขาจะให้เราซื้อแบบไปกลับ ราคาอยู่ที่ 8.50 Euro
รถบัสจะพาขับขึ้นไปบนเขา วิวข้างทางฝั่งซ้ายจะสวยมากๆ ใช้เวลานั่งไม่นาน ก็มาถึง tourist information center ด้านในจะมีร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร (เขาไม่รับบัตรนะ เงินสดเท่านั้น) มีจุดขายตั๋ว แต่เราแนะนำให้ซื้อออนไลน์มา เพราะมีราคาถูกกว่าถึง 3 Euro 😆 ก็เลยเลือกซื้อออนไลน์ราคาอยู่ที่ 32 Euro รวม cable car และค่าเข้าถ้ำพร้อมไกด์ ศึกษาเพิ่มเติมกับเรทราคาประเภทอื่นได้ https://www.eisriesenwelt.at/en/general-information/prices.html
ออกจาก tourist information center เดินมุ่งหน้าสู่ทางเข้าถ้ำ วิธีการเดินทางจะเป็นเดิน 20 นาทีก่อนและนั่ง Cable car 3 นาที และเดินต่อถึงปากทางเข้าถ้ำอีก 20 นาที แต่สำหรับใครไม่อยากนั่ง cable car ก็เดินขึ้นไปเองได้ 90 นาที แต่ไม่แนะนำ เพราะเราเห็นทางแล้ว ค่อนข้างเหนื่อยเลย
ระหว่างเดินก็จะเห็นวิวสวยๆ ตลอดทางเลย 😍
ช่วงเดิน 20 นาทีแรกก่อนถึง Cable car จะมีทางลัดเข้าไปถ้ำเล็ก ที่ลอดไปอีกฝั่งได้
แต่เราไม่ได้เข้าไปตอนขาขึ้น เพราะอยากเดินชมวิว เราเลยใช้เส้นลัดนี้ตอนขากลับลงมา
เดินมาถึง Cable car ก็รอรอบเวลาไม่นาน ก็ได้ขึ้น
หลังจากออกจาก Cable car ก็ต้องเดินต่ออีกประมาณ 20 นาที มันจะมีทางปิด เดินเข้าไม่ได้ เพราะทางเดินบอบบาง เสี่ยงแผ่นดินทรุด เขาเลยสร้างถ้ำเพื่ออ้อมให้กลับไปเส้นทางหลัก และเดินตามทางไปเรื่อยๆ จะเห็นทางเข้าถ้ำ
เดินมาถึงปากทางถ้ำ นั่งพักก่อน มีห้องน้ำให้เข้าด้วย บริเวณนี้จะมีไกด์ที่มารอเรา
มีหลายภาษา ก็ให้เราไปเข้าคิวภาษาที่เราต้องการ
ก่อนเข้าถ้ำ เขาจะให้ตะเกียงไฟมาถือ ไม่ได้ทุกคนนะ แต่จะได้แบบเป็นช่วงๆ เว้นระยะเข้าแถว จะบอกว่าตอนเข้าถ้ำ เขาไม่ให้ถ่ายรูป❌ เขาจะให้ถ่ายบางจุดตอนยืนเฉยๆ เท่านั้น เพราะว่าถ้าถ่ายรูประหว่างเดิน จะเกิดอันตราย และความล่าช้า เราเลยยกกล้องถ่ายเป็นช่วงๆ ตอนที่มีคนยกมาเหมือนกัน ข้างในจะมืดมากๆ ไม่มีแสงไฟเลย นอกจากตะเกียงไฟที่ได้มา กับแสงไฟจากพลุที่เจ้าหน้าที่จะจุดเป็นช่วงๆ ให้ชมความสวยงามของน้ำแข็ง
จะใช้เวลาเดินข้างในประมาณ 70 นาที และจะบอกว่าแอบเหนื่อย
เพราะมีบันไดที่เราต้องเดินถึง 1400 ขั้น เดินจนเหนื่อย จนไม่รู้สึกหนาวเลย 😂
เป็นถ้ำที่เราแนะนำอยากให้มามากๆ คุ้มค่าสุดๆ สักครั้งในชีวิต
แนะนำสถานที่ใน Salzburg
เราไปเมืองนี้ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ จะบอกว่าเงียบมากกกก เงียบจริง ไม่ค่อยเห็นผู้คนเลย สงบสุด จนเหมือนจะได้ยินเสียงเพลงจากความสงบนี้ 😇นั่นเพราะเราต้องอินไปกับเมืองของโมซาร์ทแน่ๆ ตอนเราเห็นภาพจากอินเทอร์เน็ตเมืองนี้ดูสวยมากๆตอนมีหิมะ แต่ตอนเราไปคือซัมเมอร์ เลยไม่มีอะไรน่าสนใจสำหรับเราเท่าไร แต่บางคนอาจจะชอบก็ได้
Mirabell Garden (สวนมิราเบล) มาเดินชมดอกไม้ นั่งชิวๆ ได้เลย เพราะที่นี่เข้าฟรี❗
Marko-Feingold-Steg สะพานคนเดินข้ามแม่น้ำ Salzach ที่มีแม่กุญแจห้อยอยู่
Salzachgalerien ตลาดริมแม่น้ำ Salzach จะเปิดช่วงวันเสาร์อาทิตย์ ตอนซัมเมอร์
จะมีพวกของทำมือ เครื่องประดับ ของท้องถิ่น มีของกินไม่มาก
Mozartsteg สะพานคนเดินข้ามแม่น้ำ Salzach อีกหนึ่งสถานที่ที่เหมาะกับการมาถ่ายรูป
Mozartplatz รูปปั้นที่สร้างอุทิศแด่คตีกวีของโลกชาวออสเตรีย
นามว่า โวล์ฟกัง อะมาเดอุส โมสาร์ท ตั้งโดดเด่นกลางจัตุรัส
Residenzplatz จัตุรัสที่ตั้งใกล้กับจัตุรัสโมสาร์ทเลย บริเวณนี้มีขนาดใหญ่
และเป็นศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์