สู่ยอดเขา Zugspitze จาก Munich
แบบ One day trip
ในบทความนี้เราเล่าแนะนำแค่ไม่กี่สถานที่ในมิวนิค เนื่องจากเราไปสถานที่ท่องเที่ยวของมิวนิคน้อยมากๆ ส่วนใหญ่เน้นดื่ม เน้นกินจ้า 😂 ของชอบเลย เบียร์ ขาหมู ไส้กรอกเยอรมันราดด้วยซอสแกงกะหรี่ (Currywurst) คิดแล้วอยากกินอีก 😋
Munich (เมืองมิวนิค) เมืองหลวงของแคว้นบาวาเรีย ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเยอรมัน เป็นหนึ่งในจุดหมายของใครหลายคน และยังเป็นที่รู้จักกันว่า เมืองหลวงของเบียร์❗เหมาะกับการมาชิมเบียร์มากๆ และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองมิวนิค และใกล้เมืองมิวนิคให้เที่ยวชมเยอะแยะเลย สำหรับในเมืองมิวนิค สถานที่จะแนวเยี่ยมชมสถาปัตยกรรม งานศิลปะ แนวพิพิธภัณฑ์ และยังมีสวนขนาดใหญ่ที่แจ่มว้าวมาก 😍
บริเวณสถานที่ใกล้เคียงจากเมืองมิวนิคที่คนมักนิยมไปแบบ One day trip ก็จะมี Neuschwanstein Castle, Hohenschwangau castle, Garmisch-Partenkirchen และ Zugspitze ในบทความนี้เราเลือกไป Zugspitze เพราะเราชอบเที่ยวแบบเน้นสถานที่ทางธรรมชาติมากกว่า แถมยอดเขานี้เป็นยอดเขาสูงที่สุดในเยอรมัน และสูงที่สุดในเทือกเขาแอลป์ ดังนั้นเราต้องไป 😁
สถานที่ที่ไปเยี่ยมชมใน Munich
English Garden (อิงลิชการ์เดน) สวนสาธารณะขนาดใหญ่มากในเมืองมิวนิค มีแม่น้ำธรรมชาติไหลผ่าน มีทะเลสาบ และน้ำตกที่สร้างขึ้น จึงเป็นศูนย์รวมด้านการพักผ่อนตามธรรมชาติ มีกิจกรรมให้ทำมากมาย โดยเฉพาะกิจกรรมกลางแจ้ง ทั้งกีฬาบนบกและทางน้ำ หรือใครจะมานอนอาบแดดเฉยๆ ก็ได้นะ หรือจะมาแค่เดินชมทุ่งดอกไม้ สูดอากาศดีๆ มาปิกนิก มาปิ้งย่างบาร์บีคิว ก็ไม่น่าเบื่อแล้ว
จุดสำคัญของบริเวณสวนนี้ที่เราชอบมากที่สุด นั่นคือ ลานอาหาร😋 เบียร์และอาหารมันดีงามมาก ต้องไปเลย แนะนำสุดๆ 📌 บริเวณลานอาหารนี้ จะมีส่วนโซนขายอาหารที่คล้ายๆ กับฟู้ดคอร์ท มีรั้วกั้นแยกระหว่างโซนขายอาหารกับลานนั่ง ดังนั้นเราก็เข้าไปในโซนขายอาหาร แล้วเลือกอาหาร เครื่องดื่ม จากนั้นออกมาจ่ายรวมทีเดียวตรงแคชเชียร์ขาออก แต่จะมีบางร้านที่ไม่ได้อยู่ในโซนอาหาร เราก็สามารถซื้อได้โดยจ่ายแยกได้เลย จะบอกว่าที่นี่ถ้าซื้อเบียร์เราจะได้เหรียญโทเคนมาหนึ่งเหรียญต่อหนึ่งแก้ว นั่นคือ ถ้าเราเอาแก้วไปเก็บเองพร้อมให้เหรียญโทเคนคืนตรงที่เก็บแก้ว เราจะได้เงินคืนมา 1 ยูโร
อาหารที่นี่ราคาไม่แพงมาก และอร่อยด้วย โดยอาหารจะเป็นพวกอาหารเยอรมันเลย ของอ้วนๆ ทั้งนั้น
Nymphenburg Palace (พระราชวังนิมเฟนเบิร์ก) เคยเป็นพระราชวังฤดูร้อนของราชวงศ์บาวาเรีย ตั้งอยู่ชานเมืองมิวนิค ปัจจุบันมีส่วนที่เข้าฟรีบริเวณสวนและโดยรอบ แต่ส่วนพิพิธภัณฑ์จะมีเสียค่าเข้าราคาปกติอยูที่ 8 Euro เป็นการจัดแสดงแนวห้องนอน ห้องรับแขก ห้องต่างๆ ของพระราชวัง และมีภาพวาดประดับเยอะมากๆ
ตรงหน้าพระราชวังมีเป็ดเยอะมากกกกก และที่เด่นที่สุด คือ เราเห็นหงส์แค่ตัวเดียวเลย น้องตัวใหญ่มากๆ ไม่กล้าเข้าใกล้ กลัวโดนไล่จิก 😅
Marienplatz Square (จัตุรัสมาเรียนพลาตซ์) แหล่งคึกคักมากๆ ศูนย์รวมอาหาร แหล่งช้อปปิ้ง ถ้าเดินมาจะเห็นอาคารที่โดดเด่นมากๆ จนต้องหันมองและถ่ายรูปตรงบริเวณหน้าจัตุรัส นั่นคือ ศาลาว่าการเมืองหลังใหม่ (New Town Hall)
บริเวณจัตุรัสนี้ตอนเราไปพักสามคืน บอกเลยออกมาดื่มทุกคืน 😂
One day trip ไป Zugspitze
ยอดเขาซุกสปิตเซ่ (Zugspitze) ยอดเขาสูงที่สุดในเยอรมัน และเทือกเขาแอลป์❗ ตั้งอยู่ทางเมืองตอนใต้สุดมีชื่อว่า การ์มิช–พาร์เท่นเคียร์เช่น (Garmisch-Partenkirchen) เป็นพรมแดนทางธรรมชาติระหว่างเยอรมันและออสเตรีย
ในช่วงฤดูหนาวจะมีหิมะปกคลุมหนามากๆ ⛄ จนเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญที่คนนิยมมาเล่นสกีกัน ในช่วงฤดูร้อนหิมะจะละลายเกือบหมด แต่ก็ยังมีพอให้เห็นบ้างเล็กๆ
เราไปช่วงฤดูร้อนอากาศดีมากๆ เลย เย็นสบาย ไม่จำเป็นต้องใส่เสื้อโค้ทอะไรเลย แค่เสื้อยืดก็พอแล้ว แต่ถ้าคนขี้หนาวก็แนะนำให้พกเสื้อกันหนาวบางๆ มาก็ได้นะ
เราเดินทางจาก Munich โดยใช้รถสาธารณะ
ตามจริงแล้วต้องนั่งรถไฟจากเมือง Munich ไป เมือง Garmisch-Partenkirchen แต่ว่าช่วงนั้นไม่มีขบวนไหนไปถึงเมือง Garmisch-Partenkirchen ไม่รู้ว่าเพราะว่าอะไร แต่มีรถไฟที่ไปจอดเมืองที่ใกล้ๆอยู่ ชื่อเมืองว่า Oberau จากนั้นก็นั่งบัสต่อไปจนถึงเมืองปลายทาง
พอมาถึงสถานีรถไฟของเมือง Garmisch-Partenkirchen ก็เดินลอดไปอีกฝั่ง ไปจุด Tourist information center ของ Zugspitze ซึ่งจะมีสถานีรถไฟสำหรับ Cogwheel train ที่เป็นรถไฟไต่เขาขึ้นไป แต่จะไปไม่ถึงยอดเขานะ สำหรับยอดเขาต้องนั่ง Cable car ขึ้นไป
เราซื้อตั๋วแบบ Round trip ราคาปกติอยู่ที่ 63 Euro โดยจะรวมทั้ง Cogwheel train และ Cable car ซึ่งตั๋วนี้สามารถใช้ Cable car ไปยอดเขา Zugspitze และ Cogwheel train ไปกลับอย่างละครั้งเท่านั้น แต่สามารถใช้ส่วน Gletscherbahn cable car ได้บ่อยตามต้องการ
จุดเที่ยวชมบริเวณ Zugspitze
ทะเลสาบ Eibsee เรานั่ง Cogwheel train จากจุด Tourist information center ตรงแถวสถานีรถไฟของเมือง Garmisch-Partenkirchen ไปลงสถานี Eibsee ตรงนี้จะมี Cable car ขึ้นไปยอดเขา Zugspitze ทะเลสาบสีน้ำเงินสวยมาก มีเรือให้พาย คนนิยมมานอนอาบแดดกันด้วย
เราก็เดินไปถ่ายรูป ชมทะเลสาบก่อนขึ้นไปยอดเขา คนแอบเยอะนะ อ๋อจะบอกว่า ใครที่มีรถส่วนตัว ไม่ต้องซื้อตั๋วเหมา Cohwheel train ก็ได้นะ เพราะขับรถมาจอดจุดนี้ได้ แล้วซื้อแค่ตั๋ว Cable car พอ
จากตรงสถานีของทะเลสาบ Eibsee มองขึ้นไป จะเห็นยอดเขาที่สูงลิบลิ่ว ที่เราต้องนั่ง Cable car ขึ้นไป
พอขึ้น Cable car มาแล้ว สูงมากๆ มองเห็นทะสาบสีน้ำเงินสวยมากๆ ใช้เวลานั่ง Cable car ประมาณ 15 นาที ยืนชมวิวยาวๆ ไป
สถานียอดเขา Zugspitze เรานั่ง Cable car มาถึงสถานีบนยอดเขา บริเวณนี้จะมีอาคารขนาดใหญ่ตั้งอยู่ อารมณ์มองแล้วคล้ายสถานีอวกาศบนดวงจันทร์ที่เคยดูจากหนังเลย 😂 เราไม่สามารถออกไปเหยียบนพื้นดินด้านนอกได้ ยกเว้นจุดปีนขึ้นไปยอดเขา อาคารนี้มีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และดาดฟ้า ที่มีที่นั่งไว้นั่งชม และจุดรับประทานอาหาร
ยอดเขา Zugsptize หากใครอยากไปถ่ายรูปกับเสาทองคำ ที่ปักอยู่บนยอดที่สูงที่สุดของสถานที่แห่งนี้ อยู่ที่ 2,962 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ก็ต้องปีนขึ้นไปเองจ้า คำเตือนเลยหากใครคิดว่าไม่พร้อม กลัวความสูง ไม่แนะนำเลย เพราะอันตรายมาก ตกไปคือตาย และยังหาร่างไม่เจออีก 😂
สำหรับเรานั่น แน่นอนว่าขึ้นจ้า 😅 มาขนาดนี้แล้ว ความพร้อมคือไม่มีเลย บางคนมีเชือกปีนเขา รองเท้าปีนเขา ถุงมือ เตรียมตัวมาดี สำหรับเราคือ ไม่มีอะไรเลย มีแต่ความกล้าล้วนๆ จะบอกว่าไม่แนะนำให้ทำตามนะ ถ้าไม่มั่นใจในการปีนจริงๆ เพราะว่าบริเวณยอด คือ เป็นยอดเดี่ยวๆสูงขึ้นไป ด้านข้างคือเหวลงไปเลย แล้วเราต้องปีนขึ้นไป สูงพอควร แอบขาสั่นบ้าง พอถึงจุดด้านบนก็ไม่มีรั้วอะไรกันเลย นอกจากเสาปักหลักสำหรับปีนเขา และเชือกสลิงระหว่างเสาปักหลักที่เราสามารถใช้เชือกปีนเขาคล้อยได้
ภาพที่เราถ่ายตอนปีนขึ้นมา จะเห็นว่าเป็นเหวลงไปเลย ตกแล้วคือกลิ้งไปเลยจ้า
อ่า ให้ดูชัดๆ เลยว่า ความอันตรายมีมากขนาดนั้น ดังนั้นเตรียมตัว เตรียมใจมาดีๆ นะ
ยิ่งมองลงไปด้านข้างนะ จากบนยอดที่ยืนอยู่ สู่ความว่างเปล่าเลยทีเดียว
สิ่งที่อยากแนะนำ
- จริงๆ เราวางแผนว่าจากทะเลสาบ Eibsee ขาไปจะนั่ง Cable car ขึ้นไปยอดเขา Zugspitze จากนั้นก็นั่ง Gletscherbahn cable car ไปส่วนด้านล่างยอดเขาที่ผ่านธารน้ำแข็งลงไป และนั่ง Cogweel train กลับไปสถานี Eibsee (โดยระหว่างสองสถานีนี้ รถไฟจะตัดทะลุภูเขา) แต่ว่า❗ผิดแผน เราไปไม่ทัน Gletscherbahn cable car เที่ยวสุดท้าย เพราะมัวแต่ปีนยอดเขา Zugspitze มันใช้เวลานานมาก เนื่องจากด้านบนเป็นที่แคบๆ และคนขึ้นไปเยอะ ต้องรอคนด้านบนลงมาก่อน เราเลยอดนั่งไปตรงแถวธารน้ำแข็งและนั่งรถไฟทะลุภูเขาลงกลับมาด้านล่าง สุดท้ายเลยต้องกลับ Cable car ทางเดิมจากเที่ยวสุดท้ายพอดี
- เรื่องเวลารถไฟและเคเบิ้ลคาร์ แนะนำให้ตรวจสอบจากเว็บไซต์โดยตรงเลย จะมีตารางเวลาบอกอยู่ ไปศึกษาเอามีข้อมูลทุกอย่างเลย https://zugspitze.de/en
- บริเวณนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวดีๆ ธรรมชาติเยอะมาก ถ้าไปหลายที่ วันเดย์ทริปไม่พอแน่ๆ ต้องหาที่พักในเมืองนี้เลย