ประเทศเวียดนามเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดี สำหรับใครอยากเที่ยวต่างประเทศ แต่มีเวลาน้อย มีงบที่จำกัด มือใหม่ก็สามารถเที่ยวได้ เป็นประเทศที่เดินทางได้ไม่ยาก เรียก Grab ก็ใช้แอพเดียวเหมือนบ้านเรา ไม่ต้องโหลดใหม่เลย ใช้ตัวเดียวกัน แล้วราคาก็ไม่แรงมาก ราคา Grab ถูกกว่าบ้านเราอีก 🚌 รถเมล์ก็นั่งง่าย สามารถดูเลขรถเมล์ในกูเกิ้ลแมพ แล้วขึ้นถูกฝั่งก็ได้แล้ว จ่ายเงินก็เหมือนบ้านเราเลย จ่ายกับกระเป๋ารถเมล์ ถ้าจะเดินทางข้ามเมือง ก็มีหลายบริษัทให้เลือก หรือจะไปกับทัวร์รายวันก็มีให้เลือกหลากหลาย
ในทริปนี้เราเลือกเวียดนามเหนือ ไปเยี่ยมชมเมืองฮานอย เมืองหลวงทางการเมืองและวัฒนธรรมของเวียดนาม เป็นเมืองที่ผสมผสานระหว่างสิ่งก่อสร้างเก่าและใหม่ได้อย่างดี ผู้คนคึกคักในยามค่ำคืน และมีชื่อเสียงในเรื่องวัฒนธรรมการดื่มกาแฟ ☕
👉 ในบทความนี้เราเที่ยวเฉพาะในตัวเมืองเก่า หรือ Old Quarter และไม่ได้พาไปพิพิธภัณฑ์อะไรเลย เพราะเราไม่ใช่สายนี้จริงๆ เราเน้นกิน เน้นดูบ้านเมืองเขา การเดินทางครั้งนี้ก็เรียก Grab บ้าง นั่งรถเมล์บ้าง นั่งมอไซต์บ้าง เน้นเรื่อยๆ เก็บบรรรยากาศของเมืองฮานอยตามสไตล์เรา
การเดินทางจากกรุงเทพมาฮานอยใช้เวลาบินไม่ถึง 2 ชั่วโมง ✈ มาลงที่ท่าอากาศยานนานาชาติโหน่ยบ่าย ซึ่งตั้งค่อนข้างห่างจากย่านเมืองเก่าหรือตัวเมืองของฮานอยพอสมควร การเดินทางเข้าเมืองจะนั่งรถเมล์หรือแท็กซี่หรือจะเรียก Grab ก็ได้ สำหรับเรา เราเรียก Grab เพราะมีกระเป๋าลากที่พะรุงพะรัง แล้วก็ไม่อยากนั่งแท็กซี่ เพราะราคาที่มันไม่แน่นอน เราก็เรียก Grab มารับที่ประตูสนามบิน ใช้แอพเดียวกับที่ไทยเลย ตอนนั้นเรานั่งเข้าไปโรงแรมตรงย่านเมืองเก่า 270,000 ดอง หรือประมาณ 360 บาท แต่มีบวกเพิ่มอีก 9,000 ดอง สำหรับเข้ามารับในสนามบิน
✋1 วันในฮานอย ทำอะไรดี🤚
หลังมื้อเช้าที่โรงแรมก็ออกไปเดินถ่ายรูปตรงถนน P. Phan Đình Phùng
ถนน Flower Street นี้เพื่อนเราคนเวียดนามบอกว่าเป็นที่นิยมของสาวชาวเวียดนามที่ใส่ชุดประจำชาติมาถ่ายรูป พร้อมกับถือดอกไม้สวยๆ ด้วยพื้นหลังที่เป็นต้นไม้สูงโปร่งตัดกับพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ที่ผสมผสานกับตัวเมือง เรียกได้ว่าเป็น ซิกเนเจอร์ของฮานอยเลย บริเวณนี้ก็มีร้านจักรยานดอกไม้ให้เราได้ซื้อดอกไม้มาถ่ายรูปด้วย จากที่เราถามราคา อยู่ที่ประมาณ 150 บาทต่อช่อ
หลังจากนั้นไปวัด Tran Quoc Pagoda (วัดเฉินก๊วก)
เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเกาะกลางทะเลสาบ เราสามารถเดินเข้าไปถ่ายรูป เดินดูได้ฟรีเลย แต่ระวังเรื่องเวลาเปิดปิดของสถานที่ทำการ เพราะจะปิดช่วงเวลาเที่ยง ด้านในวัดจะมีเจดีย์สีแดงสไตล์จีนโบราณสูง 15 เมตร ซึ่งเจดีย์นี้มีความเก่าและมีความสำคัญต่อเวียดนามในแง่ของประวัติศาสตร์
ดื่มกาแฟก่อนมื้อเที่ยงที่ Cộng Cà Phê สาขาแถวเจดีย์เฉินก๊วก
เป็นคาเฟ่ที่มีหลายสาขามากๆ และเป็นที่นิยมในเวียดนาม ตัวร้านและพนักงานจะแต่งสไตล์แนวทหารเวียดนาม เราเป็นคนไม่ดื่มกาแฟ เลยสั่ง Coconut cocoa จะบอกว่าอร่อยมากกก แนะนำเลย แต่ถ้าใครดื่มกาแฟก็ต้องลองเมนูกาแฟที่มีชื่อเสียงของเวียดนามนั่นคือกาแฟร้อนใส่ไข่ (Ca phe trung)
เยี่ยมชมโบสถ์เซนต์โจเซฟ (St. Joseph Cathedral)
นั่ง Grab จากตอนเหนือของย่านเมืองเก่า ลงมาด้านล่าง มาเยี่ยมชมบริเวณนี้ หน้าโบสถ์มีร้านคาเฟ่ ร้านอาหารตั้งเต็มไปหมด ใครจะมาดื่มกาแฟอีกรอบบริเวณนี้ก็ได้นะ โบสถ์นี้เป็นโบสถ์คาทอลิกที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงฮานอย ตัวด้านในอาจจะไม่ได้มีอะไรมาก มานั่งเงียบๆ สักพักก็ได้นะ ตอนเรามา เรามาหลบฝนในนี้
ทานอาหารเที่ยงที่ Quán Bánh Canh Ghẹ Út Còi ทานก๋วยจั๊บญวน
เราแนะนำร้านนี้มากๆ อร่อยมาก ไม่ผิดหวังเลย ร้านนี้คึกคัก คนเข้าออกบ่อยมาก เป็นร้านที่คนเวียดนามมาทานเยอะมากๆ ขายไม่กี่เมนู หลักๆ คือก๋วยจั๊บญวนถ้วยละ 70,000 ดอง มีขาปูโรยหน้าด้วย เส้นจะไม่หนึบเหมือนที่ไทย น้ำซุปอร่อย เติมความเผ็ดได้
เดินเรื่อยๆ ริม Hoan Kiem Lake และไปถ่ายรูปกับสะพานแดง
ทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยม ตั้งอยู่ด้านล่างของตัวเมืองเก่า เป็นสถานที่คนนิยมมาเที่ยวแบบเรื่อยๆ ตรงกลางทะเลสาบมีวัด Ngoc Son Temple ให้เราเข้าไปถ่ายรูปกับสะพานแดงและตัววัดได้ มีค่าเข้า 50,000 ดอง
เดินซื้อของย่าน Hanoi Old Quarter
เป็นย่านที่มีของฝากเยอะแยะไปหมด คนหนาแน่น รถที่จอดข้างทางก็หนาแน่นจนไม่มีทางเดินเช่นกัน ทางเท้าคือไม่มีเดินเลย ต้องมาเดินบนถนน เพราะคนที่นี้จอดเต็มไปหมด จะเดิน จะข้ามถนน ก็ต้องระวังตัว
อาหารก่อนมื้อเย็น บั๋นหมี่หรือแซนวิชเวียดนาม
มีขายทั่วทุกมุมของฮานอยเลย บั๋นหมี่ (bánh mì) เป็นภาษาเวียดนามแปลว่า ขนมปัง บั๋นหมี่เป็นลักษณะแซนวิชที่คล้ายกับแซนวิชของฝรั่งเศส นั่นเพราะเคยตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสมาก่อน
อีกสักอย่างกับ แหนมเนือง ข้างทาง
ร้าน Nem Nướng Nha Trang Quế Hoa แนะนำมากกกก เซตนึงแค่ 45,000 ดองเอง มีของกินเล่นขายด้วย อร่อยมากๆ ร้านนี้ เป็นร้านนั่งข้างทาง เก้าอี้เตี้ยๆ แนะนำมากร้านนี้ ถึงกับซื้ออีกชุดกลับมากินต่อเลย
เดินผ่านย่านแสงสีที่ Ta Hien Street
เราเดินผ่านถนนเส้นนี้เล่นๆ อารมณ์แนวถนนข้าวสารบ้านเรา เป็นถนนที่เต็มไปด้วยร้านเหล้า แต่ค่อนข้างแออัดกว่าข้าวสารพอสมควร เพราะเป็นตรอกซอยเล็กๆ
ทานมื้อเย็นที่ Bun Cha Dac Kim หมูย่างกับเส้นขนมจีน
ร้านนี้ขายเมนูเดียวนั่นคือ Bun Cha แต่ก็มีของกินเล่นขายเช่นกัน ใครมาฮานอยแล้วต้องมาลอง Bun Cha เป็นหมูย่างทานคู่กับขนมจีน จะบอกว่าเขาให้มาเยอะมากร้านนี้
ตบท้ายด้วยดื่มเบียร์ที่ Hanoi Train Street
ถ้านึกถึงบ้านเราก็ตลาดร่มหุบ แต่อันนี้ไม่ใช่ตลาด แต่เป็นที่ตั้งของร้านคาเฟ่ ร้านเบียร์ ข้างริมทางรถไฟ มาดื่มเบียร์นั่งชิวบริเวณนี้ ถ่ายรูปกับรถไฟที่ผ่านมา ต้องเช็คเวลาดีๆ นะ รถไฟมาไม่บ่อย