One day trip เดินทางด้วยรถสาธารณะ ตามหาภูเขาไฟฟูจิที่ เมืองฟุจิคาวากุจิโกะ (Fujikawaguchiko) และหมู่บ้านโอชิโนะฮักไก (Oshino Hakkai)

ญี่ปุ่นครั้งแรกของเรา ก็อยากจะไปเห็นภูเขาไฟฟูจิสักครั้ง 🏔 ก็ได้ศึกษาทำการบ้านว่าควรไปจุดไหนดีที่ไปง่าย เดินทางสะดวก มีรถสาธารณะไปถึง ก็สรุปมาได้ที่เมืองฟุจิคาวากุจิโกะ (Fujikawaguchiko) และมีแวะไปหมู่บ้านโอชิโนะฮักไก (Oshino Hakkai) หรือที่คนไทยรู้จักกันในนาม หมู่บ้านน้ำใส

🚌เราเดินทางโดยใช้รถบัสจากท่ารถ Shinjuku Expressway Bus Terminal ไปลงที่ป้าย Oshino Hakkai Station แต่ถ้าใครไม่อยากไปหมู่บ้านโอชิโนะฮักไก ก็ลงที่สถานีคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko) ได้ก่อนเลย การซื้อตั๋วจะซื้อที่ท่ารถชินจูกุก็ได้ แต่เราแนะนำให้ซื้อแบบออนไลน์มาก่อน เพราะกลัวเต็ม  ซื้อตั๋ว จะเลือกซื้อเฉพาะขาไป แล้วขากลับซื้อที่สถานีคาวากุจิโกะ หรือจะซื้อไปกลับเลยก็ได้ เราซื้อไปกลับเลย จะได้ไม่วุ่นวาย แต่ไม่สามารถเปลี่ยนตั๋วได้นะ ต้องมั่นใจเรื่องเวลาจริงๆ เพราะเราเคยขอลองเปลี่ยนแล้ว เนื่องจากเที่ยวเสร็จไวกว่าที่คิด แล้วอยากกลับเร็วขึ้น แต่ก็เปลี่ยนไม่ได้ ก็เลยนั่งคาเฟ่ เดินถ่ายรูปแถวนั้นรอ

เที่ยววันที่ 7 ตุลาคม 2024📌


🎫รถบัสจาก Shinjuku Expressway Bus Terminal ไป Oshino Hakkai Station ราคา 2500 เยน
🎫รถบัสจาก Oshino Hakkai Station Station  กลับ Shinjuku Expressway Bus Terminal ราคา 2200 เยน

ตั๋วที่เราซื้อจากกออนไลน์ สามารถนำไปใช้ได้เลย โดยไม่ต้องแลกเป็นตั๋วที่เคาท์เตอร์ ตั๋วจะได้ผ่านอีเมล์ หรือ ดาวน์โหลดในเว็บเองก็ได้ จะมีบอกเลขรถบัสบนตั๋ว อย่างเราได้เลข Bus 1136 คันที่ 1 และมีบอกที่นั่งด้วย 👉 จะบอกว่ารถบัสสายนี้ไม่สามารถจองที่นั่งได้นะ แต่เราสามารถเลือกโซนได้ว่าจะนั่งโซนด้านหน้าหรือด้านหลัง แล้วระบบจะสุ่มที่นั่งมาให้เรา ถ้าโชคดีขาไปนั่งทางซ้าย จะเห็นฟูจิด้วย


พอมาถึง Shinjuku Expressway Bus Terminal ก็มองหาบอร์ดว่าเราต้องรอที่ท่ารถบัสหมายเลขไหน อย่างของเราไปรอที่ C7 เพราะ เลข Bus 1136 คันที่ 1 ออกเวลา 8:15 เดินทางไปถึงหมู่บ้านโอชิโนะฮักไก 10:20 ระหว่างทางก็มีผู้โดยสารลงป้ายเรื่อยๆ ส่วนมากจะเลือกลงสถานีคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko)


ส่วนเราลงหมู่บ้านโอชิโนะฮักไก (Oshino Hakkai) 🚏 ป้ายรถบัสไม่ได้จอดในตัวหมู่บ้านนะ เราต้องเดินอีกประมาณ 500 เมตร แนะนำให้เดินตามกูเกิ้ลเมพไป ตอนที่เราลงจากรถบัสก็แอบงงว่าไปทางไหนต่อ มันโล่งไปหมด ก็เปิดกูเกิ้ลเมพ แล้วเดินตามคนที่ลงพร้อมกับเราไป


มาถึงหมู่บ้านโอชิโนะฮักไก ก็จัดอาหารเที่ยงก่อน ถึงแม้จะสิบโมงกว่าๆ แต่นั่งรถบัสมานาน ข้าวเช้าก็ยังไม่ได้กิน หิวววว เลยต้องจัดมื้อแรกก่อนเลยกับปลาย่างท้องถิ่น 🐟 ที่ร้าน Ikemoto Chaya รสชาติออกเค็มๆ เพราะปลาย่างกับเกลือ แต่ก็อร่อยอยู่นะ ราคาก็ไม่แรงมาก


หมู่บ้านนี้น้ำใสจริง ถ้าอากาศดี ฉากหลังจะเห็นฟูจิ แต่ตอนเราไปไม่ค่อยเห็น เมฆปกคลุมเกือบหมด เป็นหมู่บ้านที่มีนักท่องเที่ยวมหาศาล หาจุดถ่ายรูปยากมาก ขนาดเราไปวันจันทร์นะ ไม่อยากนึกเสาร์อาทิตย์เลย คนเยอะมากกกกก ทัวร์ลงก็เยอะมากกกก 🥴


ในหมู่บ้านจะมีร้านค้า ของกินเยอะแยะเลย จะมากินดังโงะย่าง โมจิย่าง ไอติมองุ่นขึ้นชื่อ ก็มาลองได้นะ แต่คนก็หนาแน่นไม่แพ้กัน จะต่อคิวซื้อของ ก็ต้องวางแผนการเดินทางดีๆ เพราะเที่ยวรถจากหมู่บ้านไปสถานีคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko) ไม่ได้มีถี่ ถ้าไม่อยากพลาดเที่ยวรถ แนะนำให้ไป Oshino Tourist Information Center ไปขอตารางเวลารถบัส เพื่อการวางแผนก่อน 📌


เราออกจากหมู่บ้านเที่ยวรถตอน 12:42 รอที่ป้าย 126 (Shibokusa, Oshino, Minamitsuru District, Yamanashi 401-0511, Japan) คือ เดินออกมาจาก Oshino Tourist Information Center ไปทางซ้ายประมาณ 200 เมตร ตรงข้ามป้ายรถบัสจะมีร้านอาหาร และร้านของฝาก ข้างๆป้ายก็มีลานจอดรถ หาไม่ยาก


🚌 เราขึ้นรถบัสสาย F1 มันจะวิ่งตามเข็มนาฬิกา แต่ถ้า F2 จะทวนเข็มนาฬิกา


🎫การขึ้นรถบัสให้ขึ้นตรงกลางรถ แล้วดึงตั๋วออกมาก จะได้ตั๋วที่มีเลข อย่างเราได้เลข 43


ตัวเลขนี้จะใช้บอกราคาว่าเราต้องจ่ายเท่าไร สำหรับการลงป้ายต่อไป โดยให้ดูหน้าจอด้านหน้ารถบัส จะมีเลขบัตรกับราคาเทียบกัน ราคาจะวิ่งขึ้นเรื่อยๆ ตามระยะทาง อย่างตอนนี้ของเรา 180 เยน เพราะเพิ่งขึ้น แล้วสุดท้ายเราก็ไปจ่ายที่ 620 เยน เราไม่มบัตร Suica เราใช้เงินสดจ่าย 💵 ต้องจ่ายให้พอดีนะ แต่ถ้าไม่พอดีจะมีรูข้างๆกับที่จ่ายเงิน ที่เราสามารถใช้แลกเป็นเหรียญได้


มาถึงสถานีคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko) เป็นสถานีที่เป็นจุดเริ่มต้นของสายรถบัสท้องถิ่นสีต่างๆ ที่วิ่งไปตามทะเลสาบ จะขึ้นสายสีไหนก็ตรวจสอบจุดที่เราอยากลง จะขอแผนที่รถบัสจาก Kawaguchiko Sight Seeing Information Center มาไว้ใช้ดูก็ได้นะ


เผื่อใครชอบสะสมแสตมป์ระหว่างเที่ยวญี่ปุ่น ที่คาวากุจิโกะ มีแบบเป็นมิชชั่นด้วยนะ ไปตามจุดต่างๆ สะสมให้ครบ 4 จุด แล้วจะได้เป็นภาพที่สมบูรณ์


มาถึงเมืองนี้แล้ว เราก็อยากไป LAWSON Kawaguchiko Station ที่เป็นสถานที่ในตำนาน ที่คนนิยมมาถ่ายรูป แล้วก็มีดราม่าไม่น้อย เพราะคนไม่เคารพกฎจราจร วิ่งข้ามถนนถ่ายรูปกันไปมา ถึงแม้ตอนนี้ ฝั่งตรงข้าม Lawson มีรั้วกันเรียบร้อย ไม่ให้คนวิ่งข้ามถนนมาได้ ก็ยังมีนักท่องเที่ยวไม่น้อยมาถ่ายรูปที่นี่ ซึ่งเราก็ถ่ายได้นะ แต่ถ่ายไม่กี่รูป เพราะวิวไม่ได้เลย คนเยอะมากกก ภาพติดคนตลอด ต้อง Ai ออกอย่างเดียว


เป้าหมายหลักของเรา คือ จะไปถ่ายรูปกับทะเลสาบที่มีฟูจิเป็นฉากหลัง 🏔ป้ายรถบัสที่ 20 เป็นป้ายที่คนนิยมลง แต่เราเลือกลงป้ายที่ 13 Ubuya เพราะคนน้อย วิวก็ยังโอเคอยู่นะ โดยจากสถานี Kawaguchiko ให้ไปรอท่ารถที่ 1 เพราะเป็นท่ารถที่รถสายสีแดง เขียว น้ำเงิน มาจอดรับ


🚐 เราเลือกขึ้นสายสีแดงไปลงป้าย 13 เราใช้เงินสด จ่ายเป็นรอบไป แต่ถ้าใครเดินทางหลายป้าย ก็แนะนำเป็นแบบ 1 Day Pass ราคา 1500 เยน แต่เราไปกลับป้ายเดียว เลยไม่ขอซื้อพาสล่ะกัน การขึ้นลงบัสจากสถานีหลัก ไม่ต้องหยิบบัตรอะไร ขึ้นไปนั่งได้เลย แล้วดูผังหน้าจอด้านบนว่าจะลงสถานีไหน ราคาก็จะวิ่งตามระยะทาง อย่างเราจะลงป้ายที่ 13 Ubuya ก็ราคา 330 เยน แต่ถ้าขึ้นระหว่างทางจะต้องหยิบบัตร แล้วเช็คเลขบัตรว่าตรงกับราคาไหนในเวลานั้น


กดกริ่งลงป้าย 13 Ubuya จ่ายเงินสดแบบหยอดตู้ 💵 ต้องเตรียมเงินให้พอดี แต่ถ้าไม่พอดี รูหยอดข้างๆ ก็สามารถแลกเหรียญได้ บริเวณนี้จะมีทางเดินที่มีรั้วตามริมทะเลสาบ ให้เราได้ถ่ายภาพที่มีฟูจิอยู่ด้านหลังได้ ถ้าโอกาสดีก็จะเห็นฟูจิชัดและสะท้อนน้ำ แต่ตอนเราไปหมองๆ แต่ก็มีให้เห็นบ้าง ฟูจิซังมีหมวกที่ทำจากเมฆ ปกคลุมหน้าตลอดเลย ขี้อายมากๆ


ขากลับก็กลับป้ายเดิม แต่ขึ้นคนละฝั่งกับที่ลง ราคา 330 เยน หยิบบัตรจากตู้ แล้วก็ดูบอร์ดด้านหน้ารถบัสเพื่อดูราคา จ่ายเงินแบบหยอดตู้เหมือนเดิม ก็นั่งกลับไปสถานีคาวากุจิโกะ รอขึ้นรถบัสกลับโตเกียว ไปรอท่ารถที่ 3 จะมีป้ายเขียนชัดเจนว่าท่ารถบัสไปชินจูกุ ขากลับรถบัสออกเลทไปเกือบ 20 นาทีเลย